
เลื่อนอ่าน ฎีกา “ผู้พันตึ๋ง"
เลื่อนอ่านฎีกา“ผู้พันตึ๋ง– ก๊วนอดีตเทศกิจเชียงใหม่”ถูกอัยการฟ้องกรรโชกทรัพย์ ผู้ค้าตลาดไนท์บาร์ซ่าปี 39 เหตุจำเลยร่วมป่วยศาลนัดใหม่3พ.ค.
ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญาถ.รัชดาภิเษกวันที่ 10 มีนาคม 2560 เวลา 10.00 น.ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมายเลขดำด.3203/2540 ที่พนักงานอัยการกองคดีอาญา5เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายศรายุธ ภู่พลับ อดีตหัวหน้าเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่,นายธานี ฟูทอง,นายพรชัย สุคัณธสิริกุล,นายธีรยุทธ สุวรรณพาณิชย์ ทั้งหมดเป็นอดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจ,พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ ผู้พันตึ๋ง อดีตที่ปรึกษายานกเทศบาลนครเชียงใหม่,พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย หรือเสธ.ยอด อดีตที่ปรึกษายานกเทศบาลนครเชียงใหม่,นายนิสสันต์ชาติชำนิ(เสียชีวิต)และจ.ส.อ.สุทินศรีเมืองหลวงเป็นจำเลยที่1-8 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ,ข่มขืนใจ หรือจูงใจให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นสมาชิกเทศบาล เรียกรับ หรือยอมรับทรัพย์สิน ประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริตและร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา148, 149, 157และ337กรณีระหว่างวันที่20พ.ย.2538 -31พ.ค.2539พวกจำเลยร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้ค้า128 ราย ในตลาดวโรรสและตลาดไนท์บาซาร์จังหวัดเชียงใหม่
โดยศาลเบิกตัว พ.ต.เฉลิมชัย หรือผู้พันตึ๋งจำเลยที่ 5 จากเรือนจำจังหวัดนนทบุรีเพื่อมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา โดยผู้พันตึ๋ง มีสีหน้ายิ้มแย้ม ทักทายภรรยาและลูกๆ ที่มาดักรอเยี่ยม ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี
ขณะที่ นายศรายุธ ภู่พลับ อดีตหัวหน้าเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่จำเลยที่1และนายธีรยุทธ สุวรรณพาณิชย์ อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจจำเลยที่4 ไม่ได้เดินทางมาศาล โดยมีตัวแทน ยื่นคำร้องขอศาลเลื่อนฟังคำพิพากษาออกไป พร้อมแนบใบรับรองแพทย์ ระบุ นายศรายุธ จำเลยที่1มีอาการป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูก และนายธีรยุทธ จำเลยที่ 4 เป็นโรคต้อกระจกตา เตรียมที่จะพาตัดรักษา
ทั้งนี้ ศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่ามีเหตุจำเป็น จึงให้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา เป็นวันที่ 3 พ.ค.2560 นี้เวลา 09.30 น. พร้อมกำชับให้นายศรายุธ จำเลยที่ 1 และนายธีรยุทธ จำเลยที่ 4 เดินทางมาฟังคำพิพากษาอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นศาลจะถือว่า จำเลยมีเจตนาหลีกเลี่ยงที่จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณา และจะพิจารณาออกหมายจับต่อไป
ผู้สื่อรายงานว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2554เห็นว่าการกระทำของผู้พันตึ๋ง กับพวกจำเลยที่1-5เป็นความผิดตามม.148 , 149และ337 วรรคหนึ่ง ให้จำคุก อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจและผู้พันตึ๋ง จำเลยที่ 2-5 บทหนักสุด ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบข่มขืนใจให้ผู้อื่นมอบทรัพย์สินฯตาม ม.148 โดยจำคุกคนละ 6 ปีส่วนนายศรายุธอดีตหัวหน้าเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่จำเลยที่1 จำคุก 9 ปี ฐานเป็นตัวการและให้จำเลยที่เป็นอดีตเทศกิจ รวม 4 คน ร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายด้วย
ส่วน พล.ต.อินทรัตน์ หรือ เสธ.ยอด อดีตที่ปรึกษายานกเทศบาลนครเชียงใหม่ จำเลยที่ 6 และจ.ส.อ.สุทินศรีเมืองหลวงที่ 8 ศาลยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้ยกฟ้องขณะที่นายนิสสันต์ชาติชำนิจำเลยที่7ได้เสียชีวิตระหว่างการพิจารณาศาลจึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ต่อมาศาลอุทธรณ์ทีคำพิพากษา วันที่ 17 ธ.ค.2556 แก้เป็นพฤติการณ์ของจำเลยที่1-5เป็นการกระทำผิดเพียง 2 ข้อหา ฐานเป็นเจ้าพนักงานสมาชิกสภานิติบัญญัติสมาชิกสภาจังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาลเรียกรับประโยชน์สำหรับตนเองโดยมิชอบ ตามม.149และข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ทรัพย์สินกับตนเองฯ ตามม.337วรรคหนึ่ง
โดยให้ลงโทษบทหนักสุด ตามม.149ฐานเรียกรับสินบนฯ จากเดิมที่ศาลชั้นต้นลงโทษตาม ม.148แต่อัตราโทษจำคุกยังคงเดิม ในส่วนนายศรายุธอดีตหัวหน้าเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่จำเลยที่1ฐานเป็นตัวการเป็นเวลา9ปีส่วนอดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจและผู้พันตึ๋ง จำเลยที่ 2-5 ก็ให้จำคุกคนละ6ปีฐานเป็นผู้สนับสนุนและยังคงให้ อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจ จำเลยที่1-4ร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายด้วย
อย่างไรก็ดีสำหรับ พ.ต.เฉลิมชัย หรือผู้พันตึ๋ง นั้นก็เป็นนักโทษจำคุกตลอดชีวิต คดีร่วมกันฆ่านายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีต ผู้ว่า ฯ ยโสธร โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนด้วย