เลี้ยง“กุ้งก้ามแดง”ในสวนปาล์มสร้างรายได้งาม | คมชัดลึก

 

          วันที่ 7 มี.ค.60 น.ส.ธันย์บดี หนูเงิน หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดพังงา นำเกษตรกรสมาชิกกลุ่มชีวะเกษตรตำบลบางเตย อ.เมือง จ.พังงา เข้าศึกษาดูงานการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามแดง ของนายอกนิษฐ์ หลักแหลม อายุ 35 ปี เกษตรกรชาวบ้านเขาเฒ่า อยู่บ้านเลขที่ 72 ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา ซึ่งปกติทำสวนปาล์มน้ำมันและจำหน่ายเนื้อไก่ส่งตลาดสดใน จ.ภูเก็ต จนกระทั่งได้เรียนรู้กุ้งก้ามแดง หรือที่บางคนเรียก “ล็อบสเตอร์น้ำจืด” เป็นสายพันธุ์จากประเทศออสเตรเลีย กุ้งก้ามแดงได้นำมาทดลองเลี้ยงในประเทศไทย โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ได้เล็งเห็นความต้องการของตลาด ทรงทดลองเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร และได้มอบหมายให้โครงการหลวงดอยอินทนนท์ ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดเชียงใหม่ กรมประมง หน่วยวิจัยประมงน้ำจืดบนพื้นที่สูงอินทนนท์ ทำการศึกษาทดลองเลี้ยง

 

 

          นายอกนิษฐ์ หลักแหลม จึงได้ค้นคว้าหาวิธีการและขั้นตอนต่างๆ จากอินเตอร์เน็ต และได้สั่งพ่อ-แม่พันธุ์กุ้งก้ามแดงมาจำนวน 6 คู่ มาเลี้ยงไว้ดูเล่น ต่อมาเกิดลูกกุ้งจำนวน 5 คู่ ซึ่งแม่พันธุ์ตัวเดียวสามารถให้ลูกกุ้งแม่ละ 300-500 ตัว จึงได้ขยายบ่อและเริ่มจำหน่ายเป็นรายได้เสริมภายในครอบครัว โดยขุดบ่อดินรองพลาสติกใส่น้ำไว้บริเวณร่องสวนปาล์มน้ำมัน ขนาดบ่อ กว้าง 2x4 เมตร ลึก 20 เซนติเมตร ใช้น้ำบ่อ พบว่าตลาดรับซื้อลูกกุ้งอายุ 10 วัน ราคาตัวละ 7 บาท ทำให้แต่ละเดือนสามารถสร้างรายได้เดือนละประมาณ 20,000 บาท เพิ่มมูลค่าจากพื้นที่ที่สวนปาล์มน้ำมันได้เพิ่มขึ้น

          สำหรับการเลี้ยงกุ้งก้ามแดง พบว่าเป็นกุ้งที่เลี้ยงง่ายใช้พื้นที่ไม่มาก มีอายุมากถึง 4 ปี ตัวโตเต็มที่จะมีน้ำหนักมากตัวละเกือบ 1 กิโลกรัม เนื้อมีรสชาติอร่อยเป็นที่นิยมจนได้รับฉายา ล๊อบเตอร์น้ำจืด เป็นที่ต้องการของโรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร ราคาดี

          นายอกนิษฐ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า เริ่มแรกคิดว่าจะเลี้ยงไว้ดูเล่น แต่เมื่อแม่พันธุ์เกิดลูกทำให้ต้องขยายบ่อเลี้ยง จนเกิดเป็นธุรกิจ เนื่องจากความต้องการของตลาด ตนเองจึงตั้งเป็นฟาร์มเลี้ยง โดยใช้พื้นที่ในร่องสวนปาล์มน้ำมัน เป็นการใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ การเลี้ยงกุ้งก้ามแดงไม่ใช้พื้นที่มากเหมือนสัตว์เศรษฐกิจอื่น และไม่ยุ่งยากในการดูแลมากนักเพียงการเลี้ยงในบ่อดินจะดีกว่าบ่อรองพลาสติก ใช้ท่อ พีวีซี อาหารที่ได้จากธรรมชาติ(ตะไคร่น้ำที่อยู่ในบ่อ) ก็เพียงพอสำหรับกุ้งจำพวกนี้และไม่ได้ใช้สารเคมีแต่อย่างใด