คุก 7 ปี "สมยศ พฤกษาเกษมสุข" หมิ่นเบื้องสูง | คมชัดลึก

           23 ก.พ. 60 -  ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.2962/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ  4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อายุ 56 ปี อดีตบรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ( VOICE OF TUKSIN) และแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา เพื่อประชาธิปไตย เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นและแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ และองค์รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  
          โดยอัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 22 ก.ค.54 ระบุความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 15 ก.พ. - 15 มี.ค.53 จำเลย ซึ่งเป็นบรรณาธิการนิตยสาร วอยซ์ ออฟ ทักษิณ ได้จัดพิมพ์ จัดจำหน่าย เผยแพร่นิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ : เสียงทักษิณ ปีที่ 1 ฉบับที่ 15 ปักษ์หลัง เดือน ก.พ.53 ที่พิมพ์บทความ คมความคิด ของผู้ใช้นามปากกาว่า จิตร พลจันทร์ เรื่องแผนนองเลือดกับยิงข้ามรุ่น หน้าที่ 45 – 47 โดยเนื้อหาบทความสื่อให้เข้าใจว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นผู้ออกคำสั่งให้สังหารประชาชนจำนวนมากในเหตุการณ์ 6 ต.ค.19 และทรงเป็นผู้วางแผนตระเตรียมสถานการณ์เพื่อสังหารประชาชนจำนวนมากอย่างโหดเหี้ยมรุนแรงภายหลังวันพิพากษายึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งไม่มีมูลความจริง และระหว่างวันที่ 1 – 15 มี.ค.53 เวลากลางวัน จำเลยยังจัดพิมพ์ จำหน่ายและเผยแพร่ นิตยสารเสียงทักษิณ ปีที่ 1 ฉบับที่ 16 ปักษ์แรก มี.ค.53 บทความ คมความคิด ของจิตร พลจันทร์ เรื่อง 6 ตุลาแห่ง พ.ศ.2553 หน้าที่ 45-47 เนื้อหาสื่อให้เข้าใจว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพฤติการณ์ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเหตุการณ์ที่มีความขัดแย้งและเกิดการนองเลือดขึ้นในประทศไทยหลายครั้ง และทรงมีพฤติการณ์ในการควบคุมบงการอยู่เบื้องหลังรัฐบาลของประเทศไทยหลายชุด และยังทรงเป็นผู้วางแผนในการทำลายฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งไม่มีมูลความจริง เหตุเกิดที่แขวง-เขตวังทองหลาง กทม. และทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรไทย ซึ่งอัยการ ขอให้ศาลนับโทษนายสมยศ รวมกับโทษจำคุกคดีอาญาหมายเลขแดง อ.1078/2552 ที่หมิ่นประมาท พ.ล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ด้วย  
          ชั้นพิจารณา จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีว่า เป็นเพียงลูกจ้างในนิตยสาร ได้รับค่าตอบแทน 25,000 บาทต่อเดือน และจำเลยไม่มีเจตนา ซึ่งนามปากกาการเขียนบทความ จิตร พลจันทร์ คือ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้เขียนบทความส่งมายังนิตยสารเป็นประจำและได้มีการตีพิมพ์หลายครั้ง โดยเมื่อจำเลยอ่านบทความแล้วเห็นว่าเป็นการกล่าวถึงอำมาตย์เท่านั้น และเป็นการกล่าวเตือนถึงความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ได้หมายถึงพระมหากษัตริย์    
          ขณะที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 56 เห็นว่า แม้เนื้อหาในบทความทั้ง 2 ฉบับ ไม่ได้กล่าวถึงชื่อบุคคล แต่เขียนโดยมีเจตนาเชื่อมโยงเหตุการณ์ในอดีต แล้วเมื่อนำเหตุการณ์มาเชื่อมโยงแล้วหมายถึง พระมหากษัตริย์ทรงมีอำนาจเหนือรัฐบาลทหารและรัฐบาลพลเรือน และเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ความรุนแรง  
          การที่จำเลย จบการศึกษาระดับปริญญาตรีรัฐศาสตร์ เคยทำงานในองค์กรพัฒนาเอกชน และเป็นถึงบรรณาธิการบริหารรวมทั้งสื่อมวลชน ย่อมจะต้องวิเคราะห์เนื้อหาก่อนที่จะเผยแพร่ การที่นำบทความไปตีพิมพ์เผยแพร่ จึงมีเจตนาหมิ่นพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 112 จึงให้จำคุกจำเลย 2 กระทงๆ ละ 5 ปี รวมจำคุก 10 ปี และให้นับโทษเพิ่มอีก 1 ปี คดีหมิ่นประมาทฯ พล.อ.สพรั่ง จึงรวมจำคุกจำเลย ทั้งสิ้น 11 ปี   
         ต่อมาศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาวันที่ 19 ก.ย.57 พิพากษายืนจำคุก 11 ปี โดยนายสมยศ ได้ยื่นฎีกาต่อสู้คดี   
        ซึ่งศาลเบิกตัว นายสมยศ จำเลย จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ฟังคำพิพากษา ขณะที่ นายสมยศ มีสีหน้าแจ่มใสโบกมือ ทักทายกับสื่อมวลชนที่รอมาทำข่าว โดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. จำเลยในคดีก่อการร้ายที่เดินทางมาฟังการสืบพยานที่ศาลวันเดียวกันนี้ ก็ได้มาให้กำลังใจ ตบที่บ่านายสมยศด้วย ซึ่งวันนี้มีทั้งคนใกล้ชิดมาให้กำลังใจ รวมทั้งมีชาวไทยและต่างชาติร่วมสังเกตการณ์เต็มห้องพิจารณา   
         ทั้งนี้คำพิพากษาศาลฎีกา ระบุว่า ฎีกาของจำเลยที่ว่าในบทความ หมายถึงอำมาตย์ ไม่ใช่พระมหากษัตริย์นั้น เป็นการยื่นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง การที่จะยื่นฎีกาได้นั้นจะต้องมีผู้รับรองฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221  
          ส่วนที่จำเลยต่อสู้ว่า เป็นบรรณาธิการ ไม่ใช่ผู้เขียนบทความ และจำเลยมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ไม่ได้มีเจตนากระทำการนั้น ศาลฎีกา เห็นว่าควรปรับบทลงโทษเพื่อให้เหมาะสมกับพฤติการณ์ เพศอายุ และการศึกษา

          ศาลฎีกา จึงพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 2  กระทงๆ ละ3 ปี รวมจำคุก 6 ปี และให้นับโทษจำคุก1 ปี ในคดีหมิ่นประมาทฯ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตรด้วย จึงรวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 7 ปี

          ภายหลัง นายสมยศ อดีต บก.นิตยสาร กล่าวว่า ขณะนี้จำคุกมาแล้ว 5 ปีเศษ โดยเดือน เม.ย.นี้ จะครบ 6 ปี.