ข่าว

“ชาร์ม” เครื่องประดับคู่ประวัติศาสตร์

“ชาร์ม” เครื่องประดับคู่ประวัติศาสตร์

14 ก.พ. 2560

เรื่องราวของ ชาร์ม หรือ จี้ประดับ เครื่องประดับคู่พระวรกายสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ

       “ชาร์ม” หรือ “จี้ประดับ” อัญมณีคู่กายของสาวๆ มักแฝงความหมายเฉพาะตัวต่อผู้สวมใส่เสมอ ซึ่งตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์หากย้อนเวลาไปกว่าหมื่นปี มนุษย์ได้เริ่มสวมใส่ชาร์มกันอย่างแพร่หลายในรูปแบบการแสดงสัญญลักษณ์ตามความเชื่อ หรือเป็นเครื่องลาง ไม่ใช่เพื่อความสวยงามอย่างในปัจจุบัน

“ชาร์ม” เครื่องประดับคู่ประวัติศาสตร์


       ในช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์ ชาร์มจะทำมาจากเปลือกหอย กระดูกสัตว์ หรือดินเหนียว หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นอัญมณี แร่หินและไม้ อย่างเช่น เครื่องประดับชาร์มทางแถบทวีปแอฟริกา ทำจากเปลือกหอย มีอายุราว 75,000 ปี ส่วนในประเทศเยอรมันก็มีชาร์มที่ทำจากงาของช้างแมมมอธแกะสลัก มีอายุราว 30,000 ปี ในความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ จะใช้ชาร์มเป็นสัญลักษณ์ของ ความซื่อสัตย์ และความโชคดี
          ในยุคจักรวรรดิโรมันรุ่งเรือง ชาวคริสเตียนจะมีชาร์มเป็นรูปปลาตัวเล็ก ๆ ซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าของพวกเขาเพื่อสำหรับพิสูจน์ตัวเองกับคริสเตียนคนอื่น ๆ และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นนักวิชาการชาวยิว ก็จะเขียนข้อกฎหมายใส่ไว้ในชาร์ม ห้อยไว้รอบคอของพวกเขา โดยมีนัยยะว่าให้กฎหมายได้อยู่ใกล้หัวใจของพวกเขาตลอดเวลา แม้แต่อัศวินยุคกลางก็ยังสวมใส่ชาร์มเช่นกัน เพื่อเป็นเครื่องรางในการป้องกันตัวเองจากการต่อสู้ในสนามรบ

“ชาร์ม” เครื่องประดับคู่ประวัติศาสตร์

“ชาร์ม” เครื่องประดับคู่ประวัติศาสตร์

สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ และเครื่องประดับทรงโปรด


           สร้อยข้อมือชาร์ม (Charm Bracelet) ชิ้นแรกเริ่มคาดเดาว่ามีมาตั้งแต่ช่วง 400-600 ปีก่อนคริสตกาล สวมใส่โดยชาวอัสซีเรีย บาบิโลเนีย เปอร์เซียและฮิตไทต์ และเริ่มปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัดจนเป็นกระแสที่นิยมอย่างแพร่หลาย คือในยุคของ สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ ทรงรักการสวมสร้อยข้อมือชาร์มมาก มีการเลือกชาร์มรูปแบบแปลกใหม่สวยงาม และมีความหมายให้น่าติดตามเสมอ นับเป็นผู้ที่ริเริ่มแฟชั่นชาร์มในหมู่ชนชั้นสูงของยุโรป หนึ่งในสร้อยข้อมือชาร์มเส้นโปรดของพระองค์ คือเส้นที่เจ้าชายอัลเบิร์ตมอบให้เป็นของขวัญแด่พระองค์ในปี ค.ศ.1840 เป็นสายสร้อยข้อมือลักษณะเรียบประดับด้วยชาร์มรูปหัวใจ 9 ดวงเคลือบเป็นสีต่างๆ ไม่ซ้ำกัน หัวใจแต่ละดวงเป็นตัวแทนของพระองค์ทั้งสอง พระราชโอรส และพระราชธิดา สามารถเปิดออกได้ ด้านหนึ่งแกะสลักพระนามและวันประสูติ อีกด้านหนึ่งใส่เส้นพระเกศาของแต่ละพระองค์

“ชาร์ม” เครื่องประดับคู่ประวัติศาสตร์

ชาร์มแกะสลัก ใส่ภาพวาดและเส้นผมของเจ้าชายอัลเบิร์ต


      นอกจากนี้ สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียทรงมอบชาร์มเป็นของขวัญแก่เชื้อพระวงศ์และพระสหายตามโอกาสพิเศษต่าง ๆ ทำให้สร้อยข้อมือชาร์มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากนั้นเป็นต้นมา และนอกจากนี้ หลังจากเจ้าชายอัลเบิร์ตเสด็จสวรรคต สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียทรงทำชาร์มแกะสลัก โดยใส่ภาพวาดและเส้นผมของเจ้าชายอัลเบิร์ตไว้ในล็อคเก็ตชาร์ม เพื่อเป็นการไว้ทุกข์ และระลึกถึงพระสวามีของพระองค์หลังจากสิ้นพระชนม์ ทำให้ชาร์มเป็นเครื่องประดับที่นิยมมากตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

“ชาร์ม” เครื่องประดับคู่ประวัติศาสตร์

เพียร์ อีนีโวลด์เซ่น ช่างทองชาวเดนมาร์กและภรรยา


       หลังจากเทรนด์การสวมใส่ชาร์มที่ทำจากอัญมณีน้ำงามและมีความหมาย ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในแถบตะวันตก ก็ได้เริ่มแผ่ขยายความนิยมมายังฝั่งเอเชีย โดยในประเทศไทยเริ่มเป็นที่นิยมในปีพ.ศ. 2532 เมื่อ เพียร์ อีนีโวลด์เซ่น ช่างทองชาวเดนมาร์กและภรรยา มีความปรารถนาที่จะนำเสนองานเครื่องประดับงานฝีมือคุณภาพสูง รูปแบบทันสมัย สวมใส่ได้ทุกคนไม่จำกัดแค่ชนชั้นสูง จึงก่อตั้งแบรนด์ “แพนดอร่า” ขึ้นโดยในช่วงก่อนเริ่มต้นกิจการทั้งคู่มีโอกาสเดินทางมายังประเทศไทย ทำให้ได้พบกับแหล่งวัตถุดิบและอัญมณีมีค่าต่าง ๆ อีกทั้งยังได้พบกับช่างทำเครื่องประดับชาวไทยที่มีฝีมือและความเชี่ยวชาญสุดประณีต จึงตัดสินใจเริ่มต้นผลิตเครื่องประดับในประเทศไทยและได้พัฒนาจนเป็นฐานการผลิตชาร์ม และเครื่องประดับอื่นๆ ส่งออกไปทั่วโลก ปัจจุบันแพนดอร่า มีกำลังช่างฝีมือจำนวนกว่า 12,000 คน ภายในนิคมอุตสาหกรรม อัญธานี กรุงเทพมหานคร

“ชาร์ม” เครื่องประดับคู่ประวัติศาสตร์

“ชาร์ม” เครื่องประดับคู่ประวัติศาสตร์


      ความนิยมสวมใส่ชาร์ม ในปัจจุบัน สาวๆ มักจะเลือกรูปแบบที่เป็นจุดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในสร้อยข้อมือ 1เส้น จะเลือกจี้ประดับที่ไม่เหมือนกัน เพื่อแสดงความเฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร และร้อยเรียงความหมายในตัวเอง สามารถมิกซ์กันได้จากวัตถุดิบหลากหลายชนิด เช่น เงิน ทอง เพชร พลอย หินสี ฯลฯ สามารถถอดเปลี่ยนนำมามิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากับเสื้อผ้าและทุก ๆ โอกาสที่ต้องการ