
เหตุที่กล้วยไม้แคทลียาดอกเล็ก (1)
โดย - ศ.ระพี สาคริก
วันหนึ่งช่วงปี พ.ศ.2512 ระหว่างที่ฉันได้รับเชิญให้ไปปาฐกถาในนครนิวยอรค์ ฉันได้แวะหมู่เกาะฮาวายเพื่อเยี่ยมเยียนคนกล้วยไม้โดยมีศาสตราจารย์แฮร์รูยูกิ คามิโมโต้ และภรรยาให้การต้อนรับ ศาสตราจารย์คามิโมโต้ ได้ติดต่อให้ฉันมีโอกาสพบกับนักบวชคนหนึ่ง ท่านผู้นั้นก็คือ Rewron Yamada ซึ่งท่านผู้นี้สนใจผสมกล้วยไม้ที่มีลักษณะแปลกๆ แม้แต่กล้วยไม้แคทลียาซึ่งผสมออกมาใหม่
ขณะที่ฉันไปเยี่ยมท่านถึงบ้าน ทั้งคู่สามีภรรยาได้ออกมาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ไม่เพียงเท่านั้นคุณยามาด้า ยังได้ถือกล้วยไม้แคทลียาต้นเล็กนิดเดียวที่มีดอกอย่างได้สัดส่วนติดมือออกมากำไว้ในฝ่ามือตัวเองเพื่อแสดงว่าขนาดดอกมันโตกว่าฝ่ามือนิดหน่อย แคทลียาต้นนั้นมีดอกสีแสดและฉันได้ถ่ายภาพเก็บเอาไว้ด้วย
ช่วงนั้นแคทลียาต้นเล็กและมีดอกซึ่งเรียกกันว่า miniature Cattleya กำลังเป็นที่ตื่นเต้นกันในวงการกล้วยไม้ และนับเป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบเห็นแคทลียาต้นขนาดนี้เป็นครั้งแรกด้วยจึงรู้สึกว่ามันแปลกตาแปลกใจ
ฉันไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก คงเดินทางผ่านพ้นไปแต่หารู้ไม่ว่าภาพกล้วยไม้ดังกล่าวมันเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึกของฉันทำให้มีนิสัยจำง่าย แต่คงเป็นเพราะตัวฉันเองเดินทางไปไกลและมีโอกาสสัมผัสกับความแปลกใหม่หลายอย่างจึงไม่ค่อยได้สนใจอะไรมากนัก
ครั้นกาลเวลาผ่านพ้นมาอีก 10 กว่าปี ซึ่งช่วงนั้นกำลังเกิดสงครามระหว่างกองทัพสหรัฐกับเวียดนาม สงครามสหรัฐกับเวียดนามได้เกิดความรุนแรงมากขึ้นจนกระทั่งถึงขนาดใช้สารเคมีโปรยลงมาจากเครื่องบินเพื่อให้ป่าไม้ในเวียดนามมันทิ้งใบหมด ประเด็นนี้เนื่องจากเสนาธิการทหารสหรัฐต้องการให้นักบินแลเห็นทหารเวียดนามที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า เหตุการณ์เรื่องนี้ได้เป็นที่พูดกันไปไกลเกี่ยวกับการทำลายสภาพแวดล้อมของสังคมเพราะมีสารเคมีตกค้างอยู่ในป่าเป็นจำนวนมากมานานหลายปีด้วย
บังเอิญการติดต่อระหว่างตัวฉันเองกับคนทั่วโลกมันได้เปิดสภาพกว้างขวางออกไปแทบจะทั่วทุกมุมโลก ฉันมีโอกาสรู้จักกับคนฮาวายกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่บนเกาะมาอุย เราเขียนจดหมายคุยกันในที่สุดก็รู้ว่ามีคนสามคนรวมตัวกันทำธุรกิจกล้วยไม้ คนหัวหน้าชื่อ Ralph Yagi ส่วนลูกน้องอีกสองคน ทางโน้นไม่ได้แจ้งชื่อมาให้ทราบ เขาเขียนจดหมายมาถึงฉันคล้ายกับว่าตัวฉันจะเป็นที่ปรึกษาของเขา
อยู่มาวันหนึ่งคุณ Ralph ได้เขียนจดหมายมาบอกฉันว่าจะมีหนึ่งในสามคนของพวกเขาเดินทางมาประจำอยู่ในประเทศไทย ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Jack Yamaguchi คุณแจ็ค ยามากูชิ คนนี้เป็นนักถ่ายภาพเกี่ยวกับสงครามของสหรัฐอเมริกาที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยและออกไปทำงานในเวียดนามเป็นช่วงๆ
ฉันเชื่อว่าช่วงนั้นคนฮาวายกำลังลือกันลั่นว่าเมืองไทยเริ่มจะมีอิสรภาพเกี่ยวกับการปลูกการค้ากล้วยไม้ระหว่างประเทศ เพราะฉะนั้นใครไปเมืองไทยก็คงไปหากล้วยไม้อย่างแน่นอนจริงๆนั่นแหละ เพราะคุณแจ็ค ยามากูชิ ได้ทอดสะพานเข้ามาพบฉันถึงที่บ้าน ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการกล้วยไม้ป่าไปทำการผสมพันธุ์นั่นเอง