
เผย 10 ปีนักการเมืองถูกร้องเรียนเฉียด 200 เรื่อง
“วิทวัส“เผย 10 ปีมีนักการเมืองถูกร้องเรียนเฉียด 200 เรื่อง ชี้ รธน. ไม่ระบุมีหน่วยงานรับผิดชอบเรื่องผิดจริบธรรมร้ายแรง อาจส่งผลเจ้านายเมตตาไม่เอาผิดลูกน้อง
1 ก.พ. -- ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้จัดสัมมนาเรื่อง “เหลียวหน้า แลหลัง จริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ” โดย พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “งานจริยธรรมในมุมมองของผู้ตรวจการแผ่นดิน” ตอนหนึ่งว่า สิ่งที่เป็นหน้าที่สำคัญตามรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรมผู้ตรวจฯ ตั้งแต่ปี 50 เป็นต้นมา เราทำอยู่ 3 เรื่อง 1. ให้หน่วยงานทำประมวลจริยธรรม พบว่า 10 ปีที่ผ่านมามีหน่วยงานส่งมาแล้ว 8 พันฉบับ แต่มีอีก 400 หน่วยงาน หรือร้อยละ 5 ที่ยังไม่ทำส่งมา 2.ส่งเสริมจริยธรรมให้กับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเราไม่สามารถอบรม ครม. หรือ ส.ส. ได้ ที่ทำได้ก็มีแต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และข้าราชการในภูมิภาคที่อยู่ใกล้ประชาชน 3.การรายงานการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม ตลอด 10 ปีมีเรื่องร้องเรียน 339 เรื่องโดยผู้ที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือนักการเมืองระดับชาติ 194 ราย ตามมาด้วยข้าราชการ 112 ราย ที่เหลือเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นบางประปราย โดยเรื่องเด่น ๆ ที่ร้องเรียนนักการเมืองคือส.ส.เสียบบัตรแทนกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การออกร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งสองเรื่องผู้ถูกร้องเรียนถูกถอดถอนในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีการสอบจริยธรรมอดีตแกนนำ นปช. และอดีตรัฐมนตรีที่ถูกสหรัฐขึ้นแบล็กลิสต์ รวมถึงการที่ส.ส.ดูภาพอนาจารขณะร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.ขว้างเก้าอี้ในระหว่างประชุมสภาผู้แทนราษฎร และการที่นายกฯไม่ร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรแต่ไปภารกิจ ว.5 เป็นต้น
พล.อ.วิทวัสกล่าวต่อไปว่า มาตรฐานจริยธรรมมีความหลากหลายบางครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชี้ผิดถูกได้ตายตัวเหมือนความผิดในทางอาญา อย่างกรณีนายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาขโมยรูปที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น หากติดตามข่าวจะเห็นว่าทั้งประวัติการศึกษา ประวัติการทำงานก็ดี ซึ่งสุดท้ายนายสุภัฒก็สารภาพว่าท่านเมามาก แต่ซีกหนึ่งของสังคมไทยมองว่าต้องเอาถึงตาย ต้องไล่ออก ปลดออก ไม่มีบำเหน็จบำนาญ แต่ซีกหนึ่งก็มองว่าลูกผู้ชายหลังอายุ 25 ปีก็ต้องเคยมีประสบการณ์เมา แต่ขอบเขตจะไปก่อเรื่องหรือไม่ ซึ่งกรณีของนายสุภัฒนั้นโชคไม่ดีที่เกิดเรื่องที่ต่างประเทศเลยเป็นเรื่อง ถ้าเกิดขึ้นที่ประเทศไทย ในคาราโอเกะแถวบ้านท่านก็คงไม่มีเรื่อง ซึ่งอีกซีกหนึ่งบางคนก็คิดว่าถ้าเราไปลงโทษถึงตายก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายทรัพยากรบุคคล ดังนั้นเรื่องนี้จะผิดถูกตนไม่ขอพูด แต่ในมุมมองหนึ่งคิดว่าถ้าจะลงโทษด้วยการให้เขาไปบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ใช้ความรู้ประสบการณ์ไปทำงานเพื่อสังคมโดยไม่ได้ค่าตอบแทน หรืออย่างหลายปีก่อนมีคนขับรถชนคนตาย เฉี่ยวรถตู้แล้วตกโทลเวย์ ซึ่งก็ไม่มีใครอยากให้เกิด สังคมก็ไปประณาม และศาลก็ไม่ได้ตัดสินลงโทษรุนแรงเพราะยังเป็นเยาวชน ก็ให้ไปบำเพ็ญประโยชน์ ไปทำงานดูแลเช็ดตัวผู้ป่วย จนสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดี ดังนั้นสังคมจะไม่ให้โอกาสเลยหรือ
พล.อ.วิทวัส ยังกล่าวอีกว่า การดำเนินการด้านจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงคือไม่อยู่ในอำนาจของผู้ตรวจแผ่นดิน แต่กำหนดไว้ในมาตรา 219 ว่าการจัดทำมาตรฐานจริยธรรมให้ศาลรัฐธรรมนูญร่วมกับองค์กรอิสระจัดทำมาตรฐานจริยธรรมให้แล้วเสร็จ แล้วขอความคิดเห็นตามสภา วุฒิสภาและครม. โดยให้บังคับใช้ร่วมกัน ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยยะสำคัญ โดยความคืบหน้าขณะนี้มีการยกร่างมาตรฐานจริยธรรมไว้ล่วงหน้าแล้วเพราะต้องทำให้แล้วเสร็จใน 1 ปี โดยมีการทำไว้ 2 ฉบับคือฉบับสั้น และฉบับยาว ซึ่งที่ประชุมต้องเลือกกันว่าจะเอาฉบับไหน
ขณะเดียวกันในเรื่องการตรวจสอบจริยธรรม รัฐธรรมนูญใหม่ให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ไม่กำหนดให้มีองค์กรอื่นมากรองก่อนอย่างผู้บังคับบัญชาหรือผู้ตรวจการแผ่นดิน ตนคิดว่าความคาดหวังของสังคมอยากให้ ป.ป.ช. เก่ง ในเรื่องการสอบจริยธรรมร้ายแรงนั้น ตนเห็นว่า ถ้าป.ป.ช.พลาดปล่อยหลุดไปเรื่องพฤติกรรมจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง คนจะไม่ตำหนิเท่ากับพลาดปล่อยคนทุจริตคอรัปชั่นไปและอีกปัญหาหนึ่งคือถ้าเป็นเรื่องจริยธรรมไม่ร้ายแรงจะเป็นหน้าที่ของใคร หน่วยงานไหน เพราะเมื่อไม่มีหน่วยงานดูแลแล้วเกิดปัญหาเจ้านายเมตตาลูกน้องจะทำอย่างไร “จากบทเรียนเห็นว่าเรามีประมวลจริยธรรมมากเกินไป อาจจะต้องมีการกำหนดทิศทางกันใหม่ กลไกการบังคับควรมีความเข้มแข็ง ถ้ากรรมการองค์กรอิสระก็ร้องเรียนผิดจริยธรรมร้ายแรง การตรวจสอบทำได้ยากมากอย่างกรณีกกต.ถูกร้องเรียนจะหาคนมาเป็นกรรมการสอบก็ยากเพราะต้องมีตำแหน่งไม่น้อยกว่าผู้ถูกร้อง แล้วถ้าเป็นนายกฯถูกร้องเรียนทำอย่างไร ความล่าช้าในกระบวนการตรวจสอบ จำนวนเสียงในการถอดถอนที่ต้องใช้เสียงถึง 3 ใน 5 ของ ส.ว. และความไม่ชัดเจนว่าการถูกร้องปัญหาเรื่องจริยธรรมจะเป็นส่วนในการพิจารณาเลื่อนขั้น”พล.อ.วิทวัส กล่าว



