ข่าว

"น้ำตาล" ชลิตา น้ำตาคลอขอบคุณทุกแรงเชียร์

"น้ำตาล" ชลิตา น้ำตาคลอขอบคุณทุกแรงเชียร์

31 ม.ค. 2560

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 "น้ำตาล" ชลิตา ส่วนเสน่ห์ กลับถึงไทย แฟนคลับแห่รับแน่นสนามบิน พร้อมขอบคุณทุกแรงใจและแรงเชียร์

เมื่อเวลา 16.40 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ “น้ำตาล” น.ส.ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 เดินทางกลับถึงประเทศไทยด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 621 จากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจจากการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยได้เข้ารอบ 6 คนสุดท้าย ซึ่งถือว่าลึกที่สุดในรอบ 28 ปีที่ผ่านมา หลังจากปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก นางงามจักรวาลคนที่ 2 ของไทย โดยมี บิดา นายสรนันท์ ส่วนเสน่ห์ และมารดา นางชุติกาญจน์ ส่วนเสน่ห์ นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นางฉฎาณิศา ชำนาญเวช รองผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 2) นายบุญเทียม โชควิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมครูอาจารย์และนักเรียนโรงเรียนพูลเจริญวิทยาคม สมุทรปราการ และเหล่าแฟนนางงาม และกองทัพสื่อมวลชนที่มารอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดย นางฉฎาณิศา ชำนาญเวช รองผู้อำนวยการการท่า อากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 2) ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

\"น้ำตาล\" ชลิตา น้ำตาคลอขอบคุณทุกแรงเชียร์

\"น้ำตาล\" ชลิตา น้ำตาคลอขอบคุณทุกแรงเชียร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่เดินออกมาทางประตูทางออก ได้มีเสียงเรียกน้ำตาลตลอดทาง โดย “น้ำตาล” ชลิตา ได้ยกมือไหว้และโบกมือให้กับทุกคนที่มาต้อนรับ จากนั้น เปิดใจกับสื่อมวลชนทันทีที่ถึงเมืองไทยด้วยรอยยิ้มสดชื่นว่า วันนี้เห็นพี่น้องมารับรู้สึกตื้นตันใจมากที่ทุกคนมารับขนาดนี้ รู้สึกดีใจมากที่ครั้งนี้ได้สวมสะพายไทยแลนด์ไปทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของประเทศไทย สิ่งแรกที่คิดถึงคืออยากกินส้มตำ ระหว่างที่อยู่ที่สนามบินฟิลิปปินส์ ก็มีแฟนคลับมาขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก สำหรับวันนี้มาพร้อมกระเป๋า 14 ใบ ซึ่งส่งกลับมาก่อนแล้วจำนวน 4 ใบ

“สำหรับประสบการณ์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันแรกที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับกองประกวด ได้ไปหลายที่หลายจังหวัดของฟิลิปปินส์ ทุกคนที่ฟิลิปปินส์น่ารักมาก เขาคลั่งไคล้นางงามมาก หากถามว่าตื่นเต้นที่สุดช่วงไหน คงเป็นรอบ 13 สุดท้าย เพราะแอบลุ้นในใจเหมือนกัน เพราะว่ามีตัวเต็งอยู่หลายคนที่ยังไม่เข้ารอบ ก็คิดว่าจะเข้ารอบไหม นึกอย่างเดียวว่า ไทยแลนด์ ไทยแลนด์”

\"น้ำตาล\" ชลิตา น้ำตาคลอขอบคุณทุกแรงเชียร์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไร ที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงติดตามการประกวดและให้กำลังใจ ชลิตากล่าวว่า เป็นความเมตตาที่ท่านเมตตาเชียร์เรา รู้สึกเป็นเกียรติมาก ไม่คิดว่าท่านจะเชียร์เรา และสำหรับความรู้สึกตอนที่ตอบคำถามบนเวทีนั้น     เมื่อได้ยินคำถาม ในใจนึกถึงแค่พระบาทสมเด็จประปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ไม่ใช่แค่เพียงตอนตอบคำถาม แต่ทุกกิจกรรมตลอดการประกวด จะนึกถึงพระองค์ท่านเสมอ และไหว้พระองค์ท่านก่อน ทุกครั้ง ถือว่าทรงเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นกำลังใจในการทำกิจกรรมทุกอย่าง

\"น้ำตาล\" ชลิตา น้ำตาคลอขอบคุณทุกแรงเชียร์

พร้อมกับกล่าวต่อพร้อมกับน้ำตาคลอ เสียงสั่นว่า ขอขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคนที่ได้ร่วมเชียร์ และโหวตให้ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีคนเชียร์เรา รักเรามากขนาดนี้ ยอมรับว่าตอนได้ตำแหน่งที่ประเทศไทย รู้สึกกดดันมาก มีกระแสโจมตีมาก แต่กระแสทั้งด้านดีและด้านลบก็เหมือนเป็นแรงผลักดันให้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กกะโปโลคนหนึ่ง ที่ไม่เคยทำอะไรในวงการบันเทิงมาก่อน ฝึกฝนตัวเองจนมีวันนี้ ทุกวันนี้ถือว่าทำเต็มที่แล้ว ไม่ว่าผลออกมาอย่างไรก็ไม่เสียใจ แม้ว่าจะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง ที่ไม่สามารถคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สคนที่ 3 มาฝากคนไทยได้ และรู้สึกดีใจที่มีคนพูดว่า เราเป็นแรงบันดาลใจของการสู้ชีวิต สำหรับคนที่ท้อถอยหมดกำลังใจก็อยากให้สู้ต่อไป อยากให้เห็นคุณค่าของตัวเอง มุ่งมั่นอดทน น้ำตาลเชื่อว่าหากเราพยายามทำทุกอย่างให้ดี จะต้องได้รับสิ่งดีๆกลับมาเสมอ

“ขอขอบคุณทุกๆ คน ที่มารับในวันนี้ ขอบคุณตั้งแต่วันแรกที่ร่วมเชียร์ ร่วมโหวตให้กำลังใจตาลมา ตอนแรกๆ ยอมรับว่ากดดันมาก กระแสโจมตีหนักมาก ไม่ว่าจะเป็นคำติ คำชมหรือคำวิจารณ์ เหมือนแรงผลักดันให้น้ำตาลเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กกะโปโลคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องไม่เคยทำอะไรเลยในวงการ จนมาเป็นน้ำตาลเหมือนทุกวันนี้ ขอบคุณจากใจจริงๆ ที่ส่งกำลังใจให้ครั้งนี้ ความรู้สึกของน้ำตาลเป็นอะไรที่อธิบายยาก ตื้นตันไม่สามารถพูดออกมาได้ ครั้งหนึ่งได้ทำหน้าที่ตรงนี้ ดีใจมากที่ได้นำชื่อประเทศไทยของเราไปประกาศบนโลก ก็อยากจะบอกแม่ว่า ถ้าไม่มีแม่ก็ไม่มีตาลในวันนี้ ฝากขอบพระคุณแม่มาก ที่อดทนเลี้ยงดูตาลมาถึงวันนี้” น้ำตาลกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงอนาคต น้ำตาลกล่าวว่า จะขอมุ่งศึกษาให้จบปริญญาตรีที่ค้างอยู่ก่อน ส่วนอนาคตการทำงานในวงการบันเทิงนั้น ยังไม่แน่นอน หากมีโอกาสก็ขอทำทุกอย่าง เพราะอยากจะช่วยเหลือครอบครัวไปพร้อมๆ กับการทำงาน นอกจากนี้ก่อนไปประกวดตัวเองได้บนไว้กับศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ ซึ่งบนไว้ว่าหากได้รับมงกุฏจะกลับมารำถวาย 99 คน แต่เมื่อได้เข้ารอบ 6 คน จึงตั้งใจจะไปรำถวาย 9 คน ส่วนวันไหนจะรอความชัดเจนอีกครั้ง

ด้าน นางชิชญาสุ์ กรรณสูต ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ซึ่งเดินทางไปให้กำลังใจที่ขอบเวทีการประกวดด้วย แต่เดินทางกลับมาก่อน และในวันนี้ก็มารอรับสาวงามขวัญใจคนไทย เล่าว่า แฟนคลับที่ฟิลิปปินส์เยอะมากตั้งแต่เดินทางไปถึงสนามบิน แฟนคลับที่หนักหนาสาหัสมาก มีความคลั่งไคล้เรียกว่าตั้งแต่สนามบินก็ว่าได้ พัดสปอร์ตว่ามาจากไทยแลนด์ ก็จะเรียกว่ามิสไทยแลนด์ดังลั่นสนามบิน ทุกคนจำชื่อชลิตา ส่วนเสน่ห์ ได้ตั้งแต่เจ้าหน้าที่สนามบิน ทุกคนไม่ใช่จำแค่ว่ามาจากประเทศไทย แต่จำชื่อน้องได้ ทั้งที่บนเวทีจะไม่มีการขานชื่อ ขนาดคุณแม่เอง ตอนยื่นพาสปอร์ตที่ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ยังทักว่า เป็นอะไรกับน้ำตาล เป็นคุณแม่ใช่มั้ย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าที่ประเทศฟิลิปปินส์ชื่นชอบสาวงามจากประเทศไทยตรงไหน นางชิชญาสุ์ เล่าว่า ไม่เฉพาะแต่แฟนคลับที่ฟิลิปปินส์เท่านั้น แต่ไดเร็คเตอร์ต่างๆ เองก็ชื่นชอบน้องเช่นกัน เขาบอกว่าน้องเป็นคนที่จับต้องได้ สัมผัสได้ถึงความจริงใจ มีความน่ารัก มีความจริงใจ ไม่เสแสร้งแกล้งทำ เข้าถึงง่าย ทุกครั้งที่เห็นน้ำตาลจะเห็นรอยยิ้ม ไม่มีความเครียด ที่ไปเก็บตัวเหมือนเขาไม่ได้ไปเพื่อการแข่งขัน แต่น้ำตาลไปเพื่อสร้างสัมพันธภาพ สร้างมิตรภาพ เพื่อให้เพื่อนๆ รักประเทศไทย จึงเป็นข้อดีที่พูดถึงไทยแลนด์แล้วทุกคนโอเค อย่างตอนประกาศรอบ 13 คน ทุกคนลุ้นมาก ภายในฮอลล์เงียบมาก จังหวะที่พิธีกรจะประกาศ แฟนๆ ตระโกนเรียก ไทยแลนด์ไทยแลนด์ และพอเป็นประเทศไทยจริงๆ เสียงกรี๊ดนี่ดังสนั่นฮอลล์มากๆ ยิ่งเป็นคะแนนโหวตที่เขาบอกว่ามาจากทั่วโลก 130 ล้านคะแนน ถึงจะไม่รู้ว่าน้ำตาลได้เท่าไหร่ แต่น้ำตาลได้คะแนนจากตรงนั้นมาก็ปลื้มมาก นั่นหมายความว่าคนเชียร์น้องเยอะมากๆ โดยเฉพาะพี่น้องชาวไทย เหมือนเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ได้เห็นความร่วมมือร่วมใจที่อยากให้น้องได้เข้ารอบ ทำให้รู้สึกว่า นี่คือเรื่องราวดีๆ ที่หลังจากทุกคนผ่านความเสียใจมา นี่นับว่าเป็นเรื่องราวทำให้ทุกคนมีความสุขอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราไม่คิดมาก่อนเลยว่า นางงามของเราจะสร้างความรักความสามัคคีได้ทั้งประเทศขนาดนี้

สื่อและแฟนคลับนางงามแห่รับแน่น 
   สำหรับบรรยากาศภายในชั้น 2 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ ปรากฎว่า นอกจากกองทัพสื่อมวลชนที่มาปักหลักรอทำข่าวแล้ว ยังมีกลุ่มแฟนคลับนางงาม และคณะครูนักเรียนจากโรงเรียนพลูเจริญวิทยาคม จังหวัดสมุทรปราการ มาร่วมต้อนรับศิษย์เก่าคนเก่งและสวยมาก

นายเฉลิมชัย อาจณรงค์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนพูลเจริญวิทยาคม จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ระดับชั้นมัธยมปีที่ 6/1 ซึ่งเป็นห้องที่มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 เรียนอยู่ กล่าวด้วยน้ำเสียงภูมิใจในตัวลูกศิษย์ว่า ตอนสมัยที่เรียนอยู่นั้นไม่เคยสร้างความหนักใจให้กับครูผู้สอนเลย เพราะห้องหนึ่ง เป็นเด็กนักเรียนแผนกวิทยาศาสตร์ มีความตั้งใจเรียนและเรียนเก่งผลการเรียนอยู่ในระดับดีมากอยู่แล้ว ขณะเดียวกันเป็นเด็กที่มีอัธยาศัยดี ร่าเริง สนุกสนาน และให้ความสนใจร่วมกิจกรรมของโรงเรียนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมด้านวิชาการ หรือกิจกรรมสันทนาการ เช่น ดรัมเมเยอร์,​ การแสดงละครวิชาการ เป็นต้น แต่เรื่องการประกวดในเวทีนางงามนี้ไม่เคยเห็นว่าเขาจะสนใจมาก่อน จนเมื่อเจ้าตัวกลับมาขอหลักฐานเกี่ยวกับการศึกษาเพื่อนำไปสมัครประกวดจึงได้ทราบและก็ติดตามเรื่อยมาจนถึงวันตัดสินรอบชิงชนะเลิศที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งในวันนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เปิดโปรเจกเตอร์ให้น้องๆ ที่โรงเรียนร่วมส่งกำลังใจเชียร์รุ่นพี่กันอย่างตื่นเต้น

“เด็กเก่งบางคนจะมีความมั่นใจในตัวเองสูง ขณะที่ น้ำตาล ถึงจะเรียนเก่งแต่ก็เป็นน่ารัก ให้ความเคารพครู รู้จักครู รู้จักความเป็นเด็ก ไม่ก้าวร้าว นอกจากนี้ยังมีความกตัญญู แม้ว่าจะเรียนจบออกไปแล้ว เมื่อโรงเรียนมีกิจกรรม เขาและเพื่อนๆ ก็มักจะกลับมาร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนเสมอ เช่น วันไหว้ครู เป็นต้น และถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่ได้มงกุฎมิสยูนิเวิร์สมาครอง แต่ครูและน้องๆ ก็ภูมิใจมาก ที่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย และสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนด้วย อีกทั้งยังถือว่าเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ รุ่นหลังได้อีกด้วย” อาจารย์ที่ปรึกษา น้องน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงและแววตาแห่งความภูมิใจ

อีกหนึ่งกำลังใจที่มาร่วมรับนางงามขวัญใจคนไทย นายฐิติวัฒน์ เพชรถิรสวัสดิ์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งแต่งชุดราตรีสีดำเลียนแบบชุดราตรีที่ "น้ำตาล"  ใส่บนเวทีเมื่อตอนโชว์ตัวในรอบ 6 คนสุดท้าย กล่าวด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้มว่า ตัวเองรักพี่น้ำตาลมาก รักตั้งแต่วันแรกที่เข้าประกวดจนมาถึงวันนี้ ที่มารับก็เพราะอยากมาให้กำลังใจ อยากบอกว่าพี่สวยที่สุด พี่ทำดีที่สุดแล้ว ขอบคุณมากที่ลเป็นไอดอลให้ตัวเองในเรื่องการมุ่งมั่นพัฒนาตัวเอง และอยากบอกว่าไม่ต้องเสียใจที่ไม่ได้มงกุฎในการประกวดครั้งนี้ ไม่ว่าอย่างไรพี่ก็คือ มิสยูนิเวิร์สสำหรับน้องและคนไทย