ข่าว

ตร.บางโพรวบแก๊งโจรกรรมรถจยย.ปลอมเป็นเด็กส่งนสพ.ตระเวนก่อเหตุ

ตร.บางโพรวบแก๊งโจรกรรมรถจยย.ปลอมเป็นเด็กส่งนสพ.ตระเวนก่อเหตุ

30 ม.ค. 2560

ตำรวจบางโพรวบแก๊งโจรกรรมรถจยย. พบปลอมเป็นเด็กส่ง นสพ. ออกตระเวนก่อเหตุทั่วกรุง 

                                                 
          กองบัญชาการตํารวจนครบาล (บช.น.) - เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 ม.ค.2560 พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบช.น. พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญศิลป์ ผกก.สน.บางโพ พ.ต.ท.อนันท์ กลมรัตน์ รอง ผกก.สสฯ พ.ต.ท.ทรัพย์สยาม ชัยทุมพงษ์ สว.สส.ฯ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สน.บางโพ ได้ร่วมกันแถลงจับกุม นายสมเดช หรือ เสือ ชินบุตร อายุ 49 ปี นายวิทยา หรือ ไก่ ว่องวุฒิ อายุ 49 ปี นายขวัญชัย หรือ โตโต้ สุขบาล อายุ 31 ปี นายนิติพล หรือป็อบ เปลี่ยนสกุล อายุ 29 ปี และนายจริน หรือหรั้ง สืบสาย อายุ 54 ปีพร้อมของกลาง 

          แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ จำนวน 21 ป้าย เบ้ากุญแจรถจักรยานยนต์ จำนวน 12 เบ้า ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของรถจักรยานยนต์ยี่ห้อใด ใบส่งสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัดข้ามสมุทรขนส่ง จำนวน 11 ใบ สมุดบัญชีเงินฝาก 1 เล่ม เสื้อคลุมแขนยาว จำนวน 1 ตัว หมวกนิรภัย จำนวน 1 ใบ กระเป๋าหนังห้อยข้างสำหรับใส่หนังสือพิมพ์สีเขียว จำนวน 1 ใบ รองเท้า จำนวน 1 คู่ และอุปกรณ์ใช้สำหรับงัดเพื่อลักรถจักรยานยนต์ ลักษณะเป็นท่อทรงกลม รูปตัวที 1 อัน รูปตัวแอล 1 อันโดยจับกุมได้ที่บ้านพักเลขที่ 16 ซอยอัสสัมชัญ 11 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ                                       
        
          พล.ต.ต.สุรชัย กล่าวว่า  สืบเนื่องจากวันที่ 30 ต.ค.2559  ได้เกิดเหตุคนร้ายเข้าไป๹�ว้ที่บ้านพัก เพื่อเปลี่ยนเบ้ากุญแจรถจักรยานยนต์ที่ได้จากการก่อเหตุในพื้นที่ สน.บางโพ และอีกหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ                                   
      
          นายจริน ให้การรับสารภาพว่า  ได้โจรกรรมรถจักรยานยนต์ และนำส่งไปขายที่ประเทศพม่าได้คันละ 12,000 บาท โดยทีมโจรกรรมรถได้คันละประมาณ 8,000-9,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถที่โจรกรรมมาได้ โดยนายจรินรับสารภาพว่าได้ทำมา 1 ปีครึ่ง ตนเป็นผู้ประสานงาน เมื่อได้รถมาก็จะโทรบอกนายนิติพล มาเอารถจักรยานยนต์ไปเปลี่ยนเบ้าที่บ้านพัก และทำการปลอมแปลงเอกสาร ก่อนที่จะนำรถไปส่งที่ขนส่งพุทธมณฑลสาย 2 เพื่อส่งต่อไปยังอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อีกส่วนก็จะส่งต่อไปยังจังหวัดระนอง ก่อนนำส่งต่อไปยังประเทศพม่า ซึ่งในกระบวนการนี้จะมีนายมาโนช หรือ บี อินทรประเสริฐ เป็นผู้ดำเนินการโอนเงินให้นายจริน
          
          สำหรับนายวิทยา จะเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คู่กับนายสมเดช  โดยจะใช้วิธีอำพลางในการโจรกรรมในแต่ละครั้ง ซึ่งจะใช้กระเป๋าหนังห้อยข้างสำหรับใส่หนังสือพิมพ์ซ่อนอุปกรณ์ใช้สำหรับงัดรถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะเป็นท่อกลม รูปตัวที และรูปตัวแอล ตระเวนโจรกรรมรถจักรยานยนต์ โดยจะสามารถปลดล็อกคอรถจักรยานยนต์ได้ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นในเวลาตี 3 ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับเด็กส่งหนังสือพิมพ์ออกทำงาน ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ติดใจสงสัยแต่อย่างใด โดยการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ จะเลือกเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า และใช้วิธีการสังเกตว่ามีการล็อกดิสเบรคไว้หรือไม่ หากมีการล็อกที่แน่หนา ก็เปลี่ยนไปเลือกคันอื่นแทน และหากพบว่าแค่ล็อกคอรถไว้เท่านั้น ก็จะใช้อุปกรณ์ในการงัดใส่ไปที่รูกุญแจ แล้วงัดตัวล็อกมันก็จะคลาย และก็สตาร์ทรถขี่ประคองกันไปกับรถที่อำพลางส่งหนังสือพิมพ์ โดยนายวิทยา เคยโจรกรรมมาแล้วประมาณ 300 คัน ซึ่งก่อนหน้านี้นายวิทยา เคยทำงานในบ่อนมาก่อน ก็จะมีรถมาจำนำที่บ่อน และมีการทิ้งรถเอาไว้เพื่อส่งไปขายต่อที่อำเภอแม่สอด และจังหวัดระนอง เมื่อส่งต่อเนื่อง ทางฝั่งพม่าก็ติดต่อมาขอซื้อเพิ่ม จึงได้ตั้งแก๊งลักรถจักรยานยนต์ขึ้นมา 3ชุด ล่าสุดได้ถูกจับกุมไปแล้ว 2 ชุด  ซึ่งนายวิโรจน์ หรือ โรจน์ สายบุตร อายุ 36 ปี และนายเกียรติ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) อายุประมาณ 30 ปี อยู่ในระหว่างหลบหนี                                       
               
          พล.ต.ต.สุรชัย กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และควบคุมตัว พร้อมของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพ ส่วนนายจรัล หรือ รัน พบบ่อเงิน และนายสามารถ หรือ มาด พบบ่อเงิน นำตัวไปควบคุมที่ สภ.โคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป