ข่าว

ทรัมป์จัดหนัก!ลงนามสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

ทรัมป์จัดหนัก!ลงนามสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

26 ม.ค. 2560

ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งพิเศษสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก แก้ปัญหาหลบหนีเข้าเมืองตามที่หาเสียงไว้ จับตาแผนสองสกัดผู้ลี้ภัยตอ./กลาง-แอฟริกา

          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 25 มกราคม(ตามเวลาท้องถิ่น)ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในคำสั่งผู้บริหาร ซึ่งเป็นอำนาจพิเศษของประธานาธิบดี ให้มีการสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดนสหรัฐติดกับประเทศแม็กซิโกแล้ว และว่าจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นอีก 10,000 รายเพื่อตรวจตราบริเวณแนวชายแดน

          นอกจากนี้ เขายังได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับที่2 ให้ยกเลิกการให้การสนับสนุนหรืองบประมาณส่วนกลางจากรัฐแก่เมืองที่เป็นแหล่งพักพิงของผู้อพยพผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่บริหารโดยผู้แทนจากพรรคเดโมแครต เช่นที่ ซานฟรานซิสโก ที่ฝ่ายบริหารมักไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลกลางในการจัดการกับผู้อพยพผิดกฎหมาย

          ทรัมป์ ชูการปรามปรามคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของการหาเสียงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี โดยเขายืนยันหนักแน่นว่า การสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ และเม็กซิโก จะเกิดขึ้นภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ด้วยแผนการที่จะเริ่มบังคับใช้ในทันที โดยแม็กซิโกจะต้องเป็นผู้จ่ายเงินในการก่อสร้างกำแพงดังกล่าวทั้ง 100%  แม้เจ้าหน้าที่เม็กซิโก เคยบอกว่าพวกเขาจะไม่มีทางจ่ายเงินสำหรับค่าสร้างกำแพงก็ตาม

          อย่างไรก็ดีการก่อสร้างจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อสภาคองเกรสได้อนุมัติการจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างกำแพงซึ่งคาดว่าจะสูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากชายแดนระหว่างสหรัฐและแม็กซิโกยาวถึง 2.000 ไมล์ หรือกว่า 3,219 กิโลเมตร  ทว่าเมื่อปีที่แล้ว ทรัมป์บอกว่าน่าจะอยู่ราวๆ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

          "ประเทศที่ไม่มีพรมแดนไม่ถือเป็นประเทศ แต่นับจากวันนี้ไปสหรัฐอเมริกาจะสามารถกลับมาควบคุมพรมแดนของตนเองได้อีกครั้ง"ทรัมป์กล่าวและว่า ความสัมพันธ์กับเม็กซิโกจะดีกว่าเดิม โดยเขามีกำหนดจะหารือกับประธานาธิบดีเม็กซิโกในปลายเดือนนี้

            มีการคาดการณ์กันด้วยว่า หลังจากนี้ไปผู้นำจากรีพับลิกันรายนี้จะจำกัดคนเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  รวมถึงออกคำสั่งพิเศษสกัดผู้ลี้ภัยและขัดขวางการออกวีซ่าแก่บุคคลที่มาจากพวกประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ 7ประเทศ ประกอบด้วย โซมาเลีย เยเมน ลิเบีย ซีเรีย ซูดาน  อิรัก อิหร่าน