ขานรับปลูกพืชน้ำน้อยแก้แล้ง !!

         (17 ม.ค.60) ภายหลังสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนหลักทั้ง 5 แห่งของ จ.นครราชสีมา เฉลี่ยอยู่ที่ 43 เปอร์เซ็นต์ของความจุกักเก็บ ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่เหลือน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้สำนักงานชลประทานที่ 8 ขอความร่วมมือกับเกษตรกรให้งดปลูกข้าวนาปรัง เพราะน้ำที่เหลืออยู่จะต้องไว้ใช้อุปโภคบริโภคเป็นหลัก ทำให้เกษตรกรในพื้ที่ลุ่มน้ำลำตะองต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยหันไปปลูกพืชใช้น้ำน้อย

         นายสำรวย ทีเกาะ อายุ 70 ปี ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำเขื่อนข่อยงาม หมู่ 8 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา (หนึ่งในเกษตรกรผู้เพาะปลุกข้าว) บอกว่า เดิมทีตนเองจะปลูกข้าวนาปี และต่อด้วยปลูกข้าวนาปรัง แต่เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางชลประทานได้ขอความร่วมมือเกษตรกรงดปลูก เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนมีไม่เพียงพอ อีกทั้ง หากเกษตรกรที่เพาะปลูกข้าวนาปรังก็จะต้องแบกรับภาระความเสี่ยงที่ตนข้าวจะยื่นต้นตาย เนื่องจากไม่มีน้ำใช้ในการหล่อเลี้ยงต้นข้าว

          ดังนั้น จึงทำให้ตนเองหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย เช่น ถั่วฝักยาว ผักสวนครัว เพื่อหารายได้เสริมในช่วงที่ไม่ได้เพาะปลูกข้าวนาปรัง ส่วนตัวรายได้จากการขายผักสวนครัวชีวิตพออยู่ได้ ขณะเดียวกันตนในฐานะประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำฯ ก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ให้งดเพาะปลูกข้าวนาปรังหันมาเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อย เพื่อจะได้ช่วยกันรักษาปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนไว้เพื่ออุปโภคบริโภคเป็นหลัก