ไอเอสอ้างอยู่เบื้องหลังกราดยิงไนท์คลับอิสตันบูล ล้างแค้นตุรกีทำสงครามในซีเรีย เผยมือปืนสาดกระสุน 120 นัดปลิดชีวิตเหยื่อ 39 ศพ ใน7นาที
2 ม.ค. ความคืบหน้าเหตุมือปืนบุกกราดยิงในไนท์คลับไรนา ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี สังหารผู้บริสุทธิ์ 39 ราย บาดเจ็บอีก 69 คน ขณะผู้คนราว 700 คนไปรวมตัวฉลองปีใหม่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม ตำรวจตุรกียังพยายามไล่ล่าฆาตกรอย่างเข้มข้นโดยที่ยังไม่สามารถระบุตัวตน หรือสัญชาติได้ ขณะที่กลุ่มก่อการร้ายไอเอส ประกาศผ่านสำนักข่าวอามัก กระบอกเสียงของกลุ่ม อ้างว่าสาวกของตนเป็นคนลงมือถล่มไนท์คลับในอิสตันบูล พร้อมกับกล่าวหาตุรกี ซึ่งเป็นประเทศมุสลิม ว่าเป็นข้ารับใช้ชาวคริสต์ ซึ่งคาดว่าหมายถึงการที่ตุรกีเป็นพันธมิตรกับนานาชาติปราบไอเอสในประเทศเพื่อนบ้านซีเรียและอิรัก
แถลงการณ์ไอเอสระบุด้วยว่า การโจมตีครั้งนี้เพื่อตอบโต้ที่ตุรกีเข้าแทรกแซงทางทหารปราบปรามไอเอสในซีเรีย และทำให้มุสลิมบาดเจ็บล้มตาย
ตุรกีส่งทหารเข้าไปในซีเรียเพื่อขับไล่กลุ่มสุดโต่งไอเอสและกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดออกจากพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยปฏิบัติการทางทหารนี้ดำเนินมาได้ 4 เดือนแล้ว และเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เครื่องบินรบตุรกีเปิดฉากถล่มทางอากาศครั้งใหม่ต่อเมืองอัล บาบ หลังเผชิญการต่อต้านหนักหน่วงจากกลุ่มตรงข้าม
หนังสือพิมพ์ในตุรกี รายงานว่า มือปืนขึ้นแทกซี่มาลงที่หน้าไนท์คลับซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลช่องแคบบอสฟอรัส จากนั้นใช้ปืนที่คาดว่าเป็นคาลาชนิคอฟ ยิงสังหารตำรวจกับพลเรือนที่ประตูทางเข้า ก่อนเข้าไปกราดยิงแบบไม่เลือกหน้าจนหมดกระสุน 4 แมก รวม 120 นัด ในเวลาเพียง 7 นาที แขกเหรื่อแตกตื่นหนีตายด้วยการกระโดดลงน้ำในช่องแคบบอสฟอรัสที่มีอุณหภูมิแตะจุดเยือกแข็ง หลังกราดยิงแล้ว มือปืนเปลี่ยนเสื้อผ้า อาศัยความวุ่นวายโกลาหลหลบหลีกเจ้าหน้าที่ออกจากไนท์คลับมรณะไปได้อย่างลอยนวล
นายบีนาลี ยิลดริม นายกรัฐมนตรีตุรกี ปฏิเสธรายงานในวันแรกที่ว่า มือปืนแต่งกายในชุดซานตาคลอส จึงเข้าไปก่อเหตุได้
สื่อตุรกีรายงานก่อนที่ไอเอสออกมาอ้างลงมือว่า ทีมสอบสวนเชื่อว่ามือปืนอาจมาจากเอเชียกลาง อย่าง คีร์กิสถาน หรือ อุซเบกิสถาน ขณะไม่ตัดประเด็นว่า อาจมีความโยงใยกับกลุ่มเดียวกับที่ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายสามครั้งซ้อนและกราดยิงที่สนามบินอตาเติร์ก ในอิสตันบูล คร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้าย 47 คน ซึ่งเป็นการโจมตีที่ไอเอสออกมาอ้างอยู่เบื้องหลังเช่นกัน
( ภาพ AFP )
สำหรับเหยื่อกระสุนล่าสุดนั้น พบว่า เป็นชาวต่างชาติถึงสองในสาม จำนวน 27 คนจาก 39 คน และส่วนมากมาจากประเทศอาหรับ ในจำนวนนี้ที่ทราบแล้ว เป็นชาวเลบานอน 3 คน จอร์แดน 2 คน อิรัก 3 คน นอกจากนี้ยังมีสตรีชาวแคนาดา รัสเซีย วัยรุ่นอิสราเอลเชื้อสายอาหรับ สื่อรายงานว่า มีชาวซาอุดีอาระเบียรวมอยู่ด้วย 7 คน แต่ทางการริยาดยังไม่ยืนยัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง