
หลงทำตัวหวานเย็น ที่ Cocoon
ถูกยุให้ไปเดินสยามพารากอน เพราะเห็นว่าช่วงนี้ทำตัวตกเทรนด์ งานนี้เลยขอปล่อยแก่ซะให้หนำ เดินอัพเทรนด์โดนใจชนิดที่สาวน้อยสาวใหญ่ยังอาย ช็อปเพลินเดินเพลินแอร์ก็เย็นแต่ติดนิดเดียวก็ตรงที่ไม่ได้ใช้วิชาต่อรองสักแอ่ะ นี่ถ้าเป็นประตูน้ำนะต่อระเบิดไปแล้ว หิ้วของพ
เดินเข้าร้านแรกเห็นรูปหอไอเฟลเด่นหราแต่ไกล พอเข้าไปใกล้ๆ ชื่อร้านเด้งมาเตะตา "ลาเซอรีส" เขาขายไอศกรีมและเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศส หรือเรียกเก๋ๆ ว่า "ปารีเซียง" เจ้าของเป็นคนจีนนะ ชื่อ "เป้" กันหา ซก แต่พูดไทยชัดปร๋อเลย "แหะๆ ก็แฟนผมเป็นคนไทยนี่ครับ" เจ้าตัวบอก เอาล่ะนั่งร้านน่ารักๆ แบบนี้สั่งอะไรมาชิมหน่อยดีกว่า ร้านนี้ขนมมาการอง (macaron) น่ากินดี แถมสีสันก็สดใสเตะตา กินคู่ชาฝรั่งเศสร้อนๆ ชุ่มคอเชียวล่ะ และที่เจ้าของร้านภูมิใจนำเสนอต้องนี่เลย เครปฝรั่งเศส (Crepe Suzette') แป้งนุ่มชุ่มซอสซึ่งทำจากน้ำส้มผสมน้ำตาลทรายแดงเคี่ยวจนเหนี่ยวเยิ้มแล้วบีบมะนาวหน่อย เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลาเข้ากันดี
นั่งกินเครปเพลินๆ เหลือบไปเห็นขนมปังก้อนโต กลัวอ้วนก็กลัวแต่อยากกินมากกว่า เจ้านี่เขาเรียกว่า "เฟรซ เมเปิล ทอซ" ขนมปังทาเนยจนทั่วเข้าเตาอบให้เนยซึมลงเนื้อขนมปัง เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมแล้วแต่เราจะเลือก ก็เข้าท่าดีแฮะ แต่หม่ำคนเดียวมีหวังท้องบวมแน่ คราวหน้าพาเพื่อนมาด้วยดีกว่าจะได้ช่วยกันรับผิดชอบ
ท้องหน่วงๆ แล้วว่าจะเดินช็อปต่อ แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจ อารมณ์นี้ของเย็นเข้าสิงซะแล้ว ดูโน่นตู้โชว์หน้าร้าน "บูดี เบลลีย์" สะกดใจให้อยากลองไอศกรีมโยเกิร์ต เห็นผู้จัดการร้านเขาเล่าว่าทุกอย่างในร้านนี้ฝีมือคนไทยล้วนๆ (คงไม่โม้มั้ง) เอาไอเดียมาจากฝรั่งแล้วปรับเป็นโยเกิร์ตรสชาติหอมหวานอมเปรี้ยวทำเป็นสมูทตี้และแต่งหน้าสวยๆ มีให้เลือกทั้งรสธรรมชาติและรสพิเศษที่ทำออกมาใหม่ทุก 2 อาทิตย์
มาแล้วๆ "แอมกรีน (i am green)" สมูทตี้ชาเขียวที่สั่ง เนื้อเนียนไม่หวานมาก เดินกินไปเรื่อยๆ ชื่นใจดี แต่ก็พะรุงพะรังเอาเรื่องอยู่เพราะช็อปมาเต็มมือ ผละจากร้านบูดีฯ ว่าจะไม่สนใจแล้วนะ เอ๋...ก้อนอะไรเหมือนโมจิเลย แต่อยู่ในตู้ไอศกรีม ขอดูหน่อยๆ เด็กในร้านยิ้มแป้น "ไอกรีมโมจิครับ" น่าสนๆ แปลกดี สั่งมาลอง 2 ลูก แป้งนุ่มๆ ของโมจิเวลากินพร้อมไอศกรีมก็ไม่เลว และที่ยิ่งแปลกคือเขามีขนมไหว้พระจันทร์ไส้ไอศกรีมด้วย ผ่าออกมาเหมือนเด๊ะมีไข่แดงอยู่ตรงกลาง และไส้อื่นๆ อันที่จริงไอศกรีมทุเรียนก็อร่อยนะ แต่พอมากินคู่ไข่แดงพร้อมแป้งขนมไหว้พระจันทร์มันแปลกๆ แต่ถ้าใครชอบก็ไม่ผิดกฎ อยากรู้ว่ารสชาติเป็นไงแวะมา "บูโอโน่ เจลาโต้" แล้วกัน
โอ๊ยๆ ความดันจะขึ้นกินแต่ของหวานๆ ต้องหาอะไรที่เป็นผลไม้เบาๆ มาตัดหน่อย "ไอซ์ เกลส บาย มิสเตอร์เชค" ชื่อน่าสนใจดีแถมร้านก็น่ารัก เอาอีกแล้วตามใจปากตามเคยสั่งน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะมาชิมหน่อย แต่โห...ทำไมมันดูอลังการล้านแปดขนาดนี้ ทั้งราดนมและน้ำผลไม้สกัดเข้มข้น พร้อมท็อปปิ้งเกือบล้นแก้ว ตั้งชื่อเรียบๆ ว่า "น้ำแข็งไสผลไม้ 3 อย่าง" มีสตรอเบอร์รี่ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก และกีวีสด ถ้าไม่ชอบ 3 อย่างนี้ก็เลือกผลไม้อย่างอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นลิ้นจี่ เงาะ ลำไย วุ้นมะพร้าว ลูกตาล แอปเปิ้ล และสละ
อย่างว่าแหละกิเลสหนาเรื่องกินไม่เข้าใครออกใคร เห็นอะไรก็ขอลองไปซะหมด แต่คราวนี้สุดท้ายจริงๆ นะ ร้าน "ชาโฮ" ที่อยากเข้าก็เพราะเขามีโซฟารูปทรงแปลกตาให้นั่ง เฮ้อ...ขอเอนตัวหน่อย สบายจริงๆ เอ๊ะใครมาสะกิด "พี่ๆ สั่งอะไรดีคะ" ลืมตัวนึกว่าอยู่บ้าน เอาเป็นชาเขียวปั่นชื่อยาว "ชาโฮลาเต้ แฟรบบูชิโน่" แล้วก็ "มัตชา อิซูโมโน มูคาชิ" อันแรกไม่เท่าไหร่ แต่อันหลังนี่สิถูกใจตรงที่วิธีชงชา ได้ยินว่าเป็นใบชาเขียวฤดูแรกของการเก็บเกี่ยวที่จังหวัดมัตซิเอะของญี่ปุ่น คือราวเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนของทุกปี เลยได้น้ำชาสีเขียวสดชงแล้วมีฟองฟอดชวนดื่ม ที่สำคัญหอมและรสขมเล็กๆ จิบคู่ขนมต้องห้าม "โอโตเมกาชิ" ก้อนพอคำคล้ายขนมโก๋บ้านเรา เจ้าขนมนี้เมื่อก่อนเขาจะทำถวายพระจักรพรรดิและคนในพระราชวังญี่ปุ่นเท่านั้น คนทั่วไปไม่มีสิทธิ์ได้กิน แต่พอเวลาเปลี่ยนผ่านก็มีการผ่อนปรน ปลายยุคเอโดะเป็นต้นมาเลยมีขายทั่วไปโดยเฉพาะในร้านขนมเก่าแก่แห่งหนึ่งในเมืองมัตสิเอะตั้งแต่ปี 1750 โน่น
ฟังเรื่องราวแล้วเลยพลอยทำให้ขนมและชาสำรับนี้ชุ่มคอยิ่งขึ้น หลับตาพริ้มพักใหญ่ ตายแล้ว! เผลอแผล็บเดียวปาไปเกือบชั่วโมง ได้ของยังไม่ครบเลย ไปช็อปต่อดีกว่า วันนี้เอาแค่พอรู้แหล่งนั่งชิล ชิล จำได้ขึ้นใจว่า "The Cocoon" ชั้น 3 สยามพารากอน หิ้วของสองมือรีบลุก แต่โดนสะกิดอีกล่ะ "พี่ๆ ยังไม่จ่ายตังค์นะคะ" โทษที อะนี่จ๊ะไม่ต้องทอน...คริ คริ เนียน