ข่าว

บุกยึดลักลอบตัดไม้ใหญ่300ท่อน

บุกยึดลักลอบตัดไม้ใหญ่300ท่อน

24 ธ.ค. 2559

ปทส.สนธิกำลังบุกจับลักลอบตัดไม้ พบไม้ใหญ่หวงห้ามหลายชนิดถูกแปรรูปกว่า 300 ท่อนในพื้นที่ ส.ป.ก.หนองกี่ บุรีรัมย์


               24 ธ.ค. 59  พ.ต.อ.สมคิด ทิพย์จักรพงศ์ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พร้อมด้วย นายสุรวุฒิ ใจกิจสุวรรณ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ นครราชสีมา นายธีรวัฒน์ แย้มสะอาด หัวหน้าฝ่ายป้องกันส่วนป้องกันและปราบปรามภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.2 ชุมแสง-เย้ยปราสาท และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ร.23 พัน.4 ประจำอำเภอหนองกี่ ฝ่ายปกครองอำเภอหนองกี่ และตำรวจ สภ.หนองกี่ ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณบ้านเขื่อนด่าน หมู่ 6 และบ้านตะกุมทอง หมู่ 4 ต.โคกสว่าง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีผู้ลักลอบใช้รถแบ็กโฮเข้าตัดโค่นไม้หวงห้ามในเขตปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว

 

บุกยึดลักลอบตัดไม้ใหญ่300ท่อน

 

บุกยึดลักลอบตัดไม้ใหญ่300ท่อน

 

บุกยึดลักลอบตัดไม้ใหญ่300ท่อน

 

               จากการเข้าตรวจสอบพบต้นไม้หวงห้ามขนาดใหญ่หลายชนิด เช่น ไม้เต็ง ประดู่ กระพี้ และต้นพฤกษ์ ถูกเครื่องจักรโค่นล้มแบบขุดรากถอนโคนและพบไม้ทั้งที่แปรรูปแล้วและยังไมได้แปรรูปกระจายเต็มพื้นที่ทั้ง 2 จุด เนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ นับจำนวนไม้ที่ถูกตัดโค่นได้รวมกว่า 300 ท่อน โดยไม้หวงห้ามบางต้นที่ถูกตัดโค่นมีอายุหลายสิบปีและมีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางถึง 80 เซนติเมตร เส้นรอบวง 220 เซนติเมตร ความยาว 2.50 เมตร แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิดเนื่องจากมีการลักลอบตัดโค่นในช่วงกลางคืนเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไม้ของกลางทั้งหมดกว่า 300 ท่อนไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.2 อ.หนองกี่

 

บุกยึดลักลอบตัดไม้ใหญ่300ท่อน

 

บุกยึดลักลอบตัดไม้ใหญ่300ท่อน

 

บุกยึดลักลอบตัดไม้ใหญ่300ท่อน

 

               นายสุรวุฒิ ใจกิจสุวรรณ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ นครราชสีมา กล่าวว่า จากพฤติการณ์ที่ผู้ลักลอบใช้เครื่องจักรเข้าตัดโค่นต้นไม้หวงห้ามขนาดใหญ่ในเขตปฏิรูปที่ดินครั้งนี้ คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มนายทุนเพื่อต้องการนำไม้ไปขาย โดยพบร่องรอยการลำเลียงไม้ออกนอกพื้นที่แล้วบางส่วน พร้อมทั้งได้ประสานกับทางสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวใครเป็นผู้มีสิทธิ์ทำกินและจะได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนขยายผลว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบตัดไม้ในครั้งนี้ เพื่อจะได้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ พฤติการณ์ลักลอบตัดไม้หวงห้ามเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484