
ปล่อยตัว "เสธ.หิ-เสธ.แอ๊ป"
เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯปล่อยนักโทษเข้าเกณฑ์อภัยโทษล็อตแรก 300 คน เสธ.หิ-เสธ.แอ๊ปพ้นคุก ญาติแห่รับตั้งแต่ 07.00 น.
20 ธ.ค.59 - นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในวันนี้ (20 ธ.ค.) เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะปล่อยตัวผู้ต้องโทษล็อตแรก 300 ราย รวมถึง 2 อดีตนายทหารคนดัง พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิ และ พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร หรือเสธ.แอ๊ป ผู้ต้องขังที่ถูกศาลสั่งจำคุกในคดีรื้อบาร์เบียร์ ซึ่งเป็นคดีเดียวกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ได้รับการปล่อยตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 07.00 น. ที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีญาติของนักโทษ 300 ราย ที่ได้รับการปล่อยตัว มายืนรอรับเป็นจำนวนมาก รวมถึงญาติ และบรรดาคนสนิทของ พ.ท.หิมาลัย และพ.ต.ธัญเทพ มีทั้งทหาร-ตำรวจ ในและนอกเครื่องแบบ กว่า 30 คน มายืนรอรับอยู่ด้วย ต่อมาเวลา 09.00 น. เรือนจำได้ปล่อยนักโทษชุดแรกประมาณ 10 คน ออกจากประตูเรือนจำ
ต่อมา เวลา 09.15 น. พ.ท.หิมาลัย และพ.ต.ธัญเทพ ได้ถูกปล่อยตัว โดยให้ออกทางประตู อาคารรับรองที่อยู่ติดๆกัน โดยมีญาติพี่น้อง 2 นายทหารคนดัง เดินเอาเสื้อผ้าไปให้เปลี่ยนด้านใน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นจากด้านนอกได้ จากนั้นมีรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอรฺ สีดำ ทะเบียน 4กว 4473 กรุงเทพมหานคร วิ่งมารับ พ.ต.ธัญเทพ ที่หน้าประตูอาคารรับรอง ก่อนออกรถไปอย่างรวดเร็ว ถัดมามี รถโตโยต้า เวลไฟร์ สีขาว ทะเบียน ญฒ 102 กรุงเทพมหานคร เข้ามารับ พ.ท.หิมาลัย ที่หน้าประตูอาคารรับรองเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นกลุ่มคนสนิทและผู้ที่มารอรับต่างทยอยเดินทางกลับ
ทั้งนี้ การปล่อยตัวนักโทษจำนวนดังกล่าวเป็นผลจากการพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสแรกนับแต่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ 2559 โดยให้แต่ละเรือนจำตรวจสอบคุณสมบัติซึ่งต้องเป็นผู้ต้องขังชั้นดีและไม่เป็นผู้ที่กระทำผิดซ้ำ รวมถึง ไม่ใช่ผู้ต้องโทษคดีฆ่าข่มขืน ฉ้อโกงประชาชน หรือค้ายาเสพติด คาดว่าจะมีผู้ต้องโทษจากทั่วประเทศที่เข้าข่ายได้รับการพระราชทานอภัยโทษกว่า 30,000 คน.
“เสธ.หิ” ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ หลังได้รับอภัยโทษขออุทิศชีวิตให้การศึกษา. ใช้ดีกรีปริญญาเอกเป็นครูสอนศิษย์. ขอบคุณ“ชูวิทย์”รับสารภาพทำให้โทษลดลง
พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ. กล่าวภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวออกจากเรือนจำว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับการอภัยโทษครั้งนี้ และขอขอบคุณผู้มีพระคุณทุกท่านที่มาต้อนรับและยังคงเป็นมิตรเสมอมา หลังจากนี้จะเดินทางไปขอบคุณผู้ใหญ่ และผู้มีพระคุณทุกท่านรวมถึง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ที่ได้รับสารภาพ จนทำให้โทษของตนลดลง ก่อนหน้านี้ช่วงที่ขึ้นศาล กระทั่งถูกศาลตัดสินลงโทษ ได้พูดเสมอว่าตนเองไม่มีความผิด แม้กระทั่งจนวันนี้ ก็ยังขอพูดคำเดิมว่าตนเองไม่ผิด แต่ถึงกระนั้นตนก็ยอมรับการตัดสินของศาล หลังจากออกจากเรือนจำจะไปขออุทิศความรู้ให้ทางด้านการศึกษา เพราะตนเรียนจบ ระดับปริญญาเอก สามารถเป็นครู สอนลูกศิษย์ ให้มีความรู้ คู่คุณธรรมได้ต่อไป.



