
เธอคือ"น้องก้าน"ป.1 รร.ตชด...มัคคุเทศก์น้อยผู้ถวายงานพระเทพฯ
"พระองค์กลัวหนูเปียก ท่านทรงกอดหนูเข้าไปหลบฝนด้วย... หนูดีใจที่พระองค์ท่านทรงมาเยี่ยมพวกหนู หนูรักพระองค์ท่าน"
การเสด็จพระราชดำเนิน ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงเปิดศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านภูดานกอย ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 59 ไม่เพียงสร้างความปีติแก่ ครู ตชด. นักเรียน และประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จใกล้ชิด แต่ยังความปลาบปลื้มแก่ชาวไทยทั้งประเทศ เมื่อได้เห็นพระเมตตาของพระองค์ที่ทรงมีต่อเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่ง
ภาพแห่งความปีตินี้ปรากฏขึ้นระหว่างที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมศูนย์ การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านภูดานกอย ซึ่งทางโรงเรียนได้มอบหมายให้ ด.ญ.วิชุดา ปิ่นสุข หรือ น้องก้าน อายุ 7 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์น้อย แนะนำศูนย์เรื่องราวต่าง ๆ ต่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โดยระหว่างที่แนะนำ ด.ญ.วิชุดา ใช้คำราชาศัพท์ได้อย่างคล่องแคล่วจนเป็นที่โปรดปราน แต่ช่วงที่ ด.ญ.วิชุดา กำลังถวายงานอยู่นั้น มีฝนตกลงมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงโอบเด็กหญิงมาหลบฝนในอาคารพร้อมกัน อันแสดงถึงพระเมตตาที่มีต่อเด็กยากจนอย่างไม่ถือพระองค์ จนกลายเป็นภาพแห่งความประทับใจ และด.ญ.วิชุดา ได้ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านภูดานกอย เพื่อติดตามเรื่องราวชีวิตของเด็กหญิงวัย 7 ปี ที่มีโอกาสได้ถวายงานใกล้ชิดสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯและพบเธอกำลังเรียนหนังสืออยู่กับเพื่อนๆในห้องเรียน ด้วยท่าทางช่างพูดช่างจา แววตาที่สดใส สนใจเรียนหนังสือ และพูดจาฉะฉานเวลาตอบคำถามครู อันเป็นบุคลิกโดดเด่นที่ทำให้ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ถวายงานเพียงหนึ่งเดียวจากนักเรียนทั้งหมด 70 คน
ส.ต.ต.ภัชรีภรณ์ พิมพ์ปัด ครูประจำชั้น ด.ญ.วิชุดา เล่าว่า หลังจากโรงเรียนทราบข่าวการเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครูในโรงเรียนได้คัดเลือก ด.ญ.วิชุดา ให้เป็นมัคคุเทศก์น้อยตามเสด็จถวายงาน ตลอด 3 เดือนมัคคุเทศก์ตัวน้อยฝึกจำข้อมูลแต่ละฐานที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น 8 ฐาน ทั้งกิจกรรมอนุรักษ์พันธุกรรมพืช การผลิตอาหารปลาและอาหารไก่ จากวัสดุในท้องถิ่น และการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ เป็นต้น ซึ่ง ด.ญ.วิชุดา ทำได้ดี เมื่อมีข้อสงสัยจะซักถามทันที
“น้องก้านเป็นเด็กร่าเริง ให้ความร่วมมือกับกิจกรรม คอยช่วยเหลือและแนะนำเพื่อนที่เรียนอ่อนกว่า น้องก้านจะมาโรงเรียนแต่เช้า แล้วมากวาดห้องเรียน เสนอตัวช่วยคุณครู เขาจะทราบว่าโรงเรียน ตชด. ทุกแห่ง มีการเรียนการสอนเพราะความเมตตากรุณาของสมเด็จพระเทพ น้องก้านจึงคอยถามเสมอว่า พระองค์ท่านจะมาเมื่อไร อยากเจอพระองค์ท่าน อยากตามเสด็จ อยากแนะนำโรงเรียน ให้พระองค์ได้มาดูแปลงผัก เห็นความตั้งใจของนักเรียน รวมถึงความกระตือรือร้น ทางโรงเรียนจึงเลือกน้องก้าน มาเป็นมัคคุเทศก์ตามเสด็จพระองค์ หลังจากภาพที่พระองค์โอบน้องก้านหลบฝน ทำให้น้องก้านยิ่งรักพระองค์ ซึ่งเป็นความสุขที่เด็กคนหนึ่งได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระองค์ท่าน”ส.ต.ต.ภัชรีภรณ์ กล่าว
ไม่เพียงแต่เด็กหญิงเท่านั้น ความปลาบปลื้มยินดีนี้ยังเกิดกับพสกนิกรทุกคนที่รอรับเสด็จ โดยเฉพาะนางไร ดอกไม้ วัย 44 ปี ผู้เป็นแม่ ภาพที่สมเด็จพระเทพทรงโอบลูกสาวตัวน้อยไปหลบฝน ยังเป็นภาพที่ติดอยู่ในความทรงจำ ทันทีที่เห็นน้ำตาไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว
นางไร เล่าว่า แต่งงานอยู่กินกับสามี มีลูกสาว 3 คน ด.ญ.วิชุดา เป็นลูกคนสุดท้อง ลูกคนโตพิการ และลูกคนกลางกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนขยายโอกาสในตำบล กระทั่งด.ญ.วิชุดา อายุ 3 ขวบ สามีเสียชีวิต ด้วยความยากจน ไม่มีเสาหลักครอบครัว จึงต้องไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพมหานคร ฝากลูกทั้ง 3 คนให้อยู่กับลุงและป้า นานๆจึงได้กลับบ้านมาเยี่ยมลูกสักครั้ง นางไร บอกว่า ครั้งนี้ตั้งใจกลับบ้าน หลังทราบข่าวว่าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเปิดศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านภูดานกอย จึงตั้งใจกลับบ้านมารอรับเสด็จ โดยที่ไม่รู้ว่าลูกสาวคนเล็กได้รับคัดเลือกให้เป็นมัคคุเทศน์น้อยเข้าถวายงาน
“วันที่สมเด็จพระเทพท่านเสด็จมา ทางโรงเรียนจัดโซนไว้ให้ สำหรับชาวบ้าน ข้าราชการและนักเรียน ระหว่างที่นั่งรอมองเห็นลูกอยู่รวมกับเพื่อนๆ เมื่อท่านเสด็จมาถึง ก็เห็นลูกเข้าไปถวายงาน แนะนำตามฐานที่โรงเรียนจัดเตรียมไว้ นั่งร้องไห้ด้วยความรู้สึกปลาบปลื้มใจที่ลูกมีบุญได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงฝนตกเห็นท่านโอบลูกสาวเข้าไปหลบฝน ยิ่งเป็นภาพความประทับใจ ที่ท่านเอ็นดู เมตตาลูกสาว ชาวบ้านเองก็พากันตื่นเต้นดีใจทั้งหมู่บ้าน เพราะเพิ่งเคยเฝ้าเสด็จสมเด็จพระเทพฯเป็นครั้งแรก ทำให้รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ต่อจากนี้อีก 4 ปี จะกลับมารอรับเสด็จพระองค์ท่านอีกครั้ง” นางไร กล่าว
ส่วนด.ญ.วิชุดา มัคคุเทศก์น้อย บอกว่า เฝ้ารอการเสด็จของสมเด็จพระเทพทุกวัน เมื่อคุณครูเลือกให้เป็นผู้ถวายงาน แนะนำฐานต่างๆจึงฝึกฝน ท่องจำ หากมีคำราชาศัพท์คำใดไม่เข้าใจ จะถามคุณครูทันที ระหว่างที่ถวายงานแนะนำฐานต่างๆ วันที่สมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมจึงตื่นขึ้นมาเตรียมตัวแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินมาโรงเรียน จนเมื่อฝนตกพระองค์ได้โอบพาหลบฝน ยิ่งทำให้ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ
“พระองค์กลัวหนูเปียก ท่านทรงกอดหนูเข้าไปหลบฝนด้วย ท่านยิ้มตลอดเวลา หนูดีใจที่พระองค์ท่านทรงมาเยี่ยมพวกหนู หนูรักพระองค์ท่าน เวลาที่คิดถึงพระองค์หนูจะดูโทรทัศน์ พอไปโรงเรียนจะดูภาพถ่ายที่คุณครูติดไว้ วันที่ท่านพาไปหลบฝน หนูรู้สึกอบอุ่นมากค่ะ”ด.ญ.วิชุดา ถ่ายทอดความปิตีที่เปี่ยมล้นอยู่ภายใน
บ้านภูด่านกอย ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ ตั้งอยู่เขตรอยต่อ ระหว่าง ต.คำโพน อ.ปทุมราชวงศา กับ ต.หนองผือ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ห่างจากชายแดนไทยลาว ประมาณ 20 กม.เป็นหมู่บ้านทุรกันดาร อ้อมผ่านภูเขาเข้าไปลึก ประชากรรวม 724 คน 178 หลังคาเรือน ส่วนมากประกอบอาชีพทำนาทำสวน ฐานะค่อนข้างยากจน
สำหรับศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านภูดานกอย กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญชา เพื่อให้เด็กด้อยโอกาสในท้องถิ่นทุรกันดารได้เข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม ก่อสร้าง เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2558 มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันสนับสนุนวัสดุและงบประมาณ โดยมีประชาชนในพื้นที่ร่วมมือร่วมใจกันก่อสร้าง เปิดการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 ปัจจุบันสอนชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีนักเรียน 70 คน มีครูตำรวจตระเวนชายแดน 11 นาย ในจำนวนนี้เป็นครูคุรุทายาท 4 นาย