ข้าวฮางงอก“6สายพันธุ์”ผลิตภัณฑ์เพื่อคนรักสุขภาพ | คมชัดลึก

                  ผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าวในปี 2555 ทำให้ชาวบ้าน ต.โพนทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวตามนโยบายของรัฐบาลในขณะนั้นมีปัญหาไม่ได้เงินตามที่ตกลงไว้ ด้วยเหตุดังกล่าว ชาวบ้านโดยการนำของ "ก้อนคำ สิทธิวงศ์" ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมการตลาด ต.โพนทอง อดีตแม่พิมพ์ของชาติที่เกษียณราชการก่อนกำหนด เป็นหัวเรี่ยวห้วแรงสำคัญจัดตั้งเครือข่ายแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากโครงการดังกล่าว

                     “ตอนนั้นชาวบ้านเดือดร้อนมากจากโครงการรับจำนำ เพราะข้าวจำนำไปหมดแล้วแต่ยังไม่ได้ตังค์ มีการชุมชนประท้วงกันใหญ่โต แต่เราไม่ได้ต่อต้าน ไม่ประท้วง ก็มาคิดว่าอะไรที่เรามีก็มาคิดแปรรูปเพิ่มมูลค่าดีกว่า บ้านเราก็ทำข้าวเม่า ข้าวฮาง ซึ่งเป็นข้าวจากภูมิปัญญามีประโยชน์อยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้มันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นก็เลยมาคิดทำข้าวฮางงอกเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรก หลังก่อตั้งกลุ่มขึ้นมาในปี 2555” ก้อนคำ สิทธิวงศ์ ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมการตลาด ต.โพนทอง ย้อนอดีตความเป็นมาของกลุ่ม ก่อนจะมีผลิตภัณฑ์ตัวแรกเกิดขึ้นมาคือข้าวฮางงอกบรรจุถุงสุญญากาศ จากนั้นก็มีผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ตามมา ซึ่งก็เป็นการต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ตัวแรก โดยการผสมข้าว 6 สายพันธุ์เข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มตัวสารอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากข้าวแต่ละสายพันธุ์มีข้อดีที่แตกต่างกัน

                 เธอเล่าว่า หลังประสบความสำเร็จในการผลิตสินค้าตัวแรก ข้าวฮางงอกหอมมะลิ 105 จึงมีความคิดจะต่อยอดด้วยการรวมข้าว 6 สายพันธุ์ไว้ในถุงเดียวกัน จึงค้นหาข้อมูลข้าวของแต่ละสายพันธุ์ทั้งข้อมูลในอินเทอร์เน็ต รวมถึงสอบถามผู้รู้ว่าข้าวแต่ละตัวมีสารอะไรบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ก็พบว่าข้าวแต่ละสายพันธุ์มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในช่วงข้าวที่ตั้งท้องจะมีการสะสมสารกาบา ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายสูงมาก จึงมีความคิดที่จะผลิตข้าวฮางงอก โดยเริ่มจากข้าวหอมมะลิ 105 จากนั้นก็เป็นข้าวสังข์หยดเพาะงอก ข้าวหอมมะลิแดงเพาะงอก ข้าวหอมนิลเพาะงอก ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเพาะงอก และข้าวไรซ์เบอรี่เพาะงอก แล้วนำมาผสมกับธัญพืช 3 ชนิด ประกอบด้วย งาดำ ถั่วเขียว และแก่นตะวันผง ก่อนนำมาบรรจุถุงสุญญากาศอย่างดี

              สำหรับข้าวฮางงอกนั้นเป็นภูมิปัญญาของชาวไทยอีสานมาตั้งแต่เดิม โดยการนำเอาข้าวเปลือกมาแช่น้ำไว้ เพื่อกระตุ้นให้สารอาหารต่างๆ จากเปลือกข้าวซึมเข้าไปในเมล็ดข้าว แล้วจึงนำมานึ่ง เพื่อจัดเก็บสารอาหารให้คงไว้ แล้วนำข้าวเปลือกไปตากให้แห้ง และนำไปสีโดยเครื่องสีข้าวกะเทาะเปลือก ทั้งนี้ การนำข้าวเปลือกมาแช่น้ำ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการงอกของข้าว จะทำให้ผลิตสารชนิดหนึ่งขึ้นมา คือ สารกาบา (GABA) ที่มีส่วนในเรื่องความจำ และเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

              “เรื่องการตลาดขณะนี้เราก็มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ทั่วประเทศ เปิดขายทุกวันโดยไม่มีวันหยุด สินค้าหลักของเรามีให้เลือก 3 ชนิดคือ ข้าวกล้องงอก 6 สายพันธุ์ ข้าวฮางงอก 6 สายพันธุ์ และข้าวผงชงดื่ม 6 สายพันธุ์ผสมธัญพืช 3 ชนิด บรรจุถุงสุญญากาศซีลอย่างดี ราคาเริ่มตั้งแต่ 70 ถึง 480 บาทต่อถุง ถุงละ 1 กิโลกรัม สนใจผลิตภัณฑ์หรือสอบถามรายละเอียดขั้นตอนการผลิตโทร.08-9710-9194 ได้ตลอดเวลา” ประธานเครือข่ายกล่าวย้ำ

             ด้าน วัชระพันธ์ จันทรขจร เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร(กฟก.) กล่าวถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจากข้าวของเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมการตลาด ต.โพนทอง ว่า นับเป็นตัวอย่างความสำเร็จขององค์กรเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ในการคิดหาวิธีเพิ่มมูลค่าข้าว โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านเป็นการสร้างอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่ารอการช่วยเหลือจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว 

             “กลุ่มนี้เขาเด่นมากทั้งในการนำภูมิปัญญามาต่อยอดเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และการทำตลาด ก้าวต่อไปอาจจะเน้นผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มมากขึ้น อย่างเช่นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงวัย เพราะคนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงมาก รวมถึงการทำตลาดในต่างประเทศด้วย” เลขาธิการกฟก.กล่าวทิ้งท้ายอย่างภูมิใจ

                                                  ..................................................................................