ข่าว

วงจรปิดชัด'หนุ่มวินจยย.'พันข่มขืน'สาวออสซี่'

วงจรปิดชัด'หนุ่มวินจยย.'พันข่มขืน'สาวออสซี่'

14 ธ.ค. 2559

ผลตรวจร่างกายสาวออสซี่พบคราบอสุจิ แต่ยังไม่ระบุสัญชาติ ส่งพฐ.ตรวจซ้ำ เผยหนุ่มวินจยย.ที่ถูกออกหมายจับ หายตัวไป 3วันแล้ว

              ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ธ.ค.59 พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีแหม่มสาวชาวออสเตรเลียที่ถูกข่มขืนในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน ว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับ ทราบชื่อนามสกุลแล้ว 1 ราย ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัว อย่างไรก็ตามหากผู้ต้องหาทราบแล้วขอให้เข้ามามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ช่วยกันไขปริศนาข้อเท็จจริงที่อาจจะมีข้อสงสัยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเราไม่ให้เกิดแง่ลบ โดยหมายจับผู้ต้องหาได้ออกเมื่อช่วงเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา ส่วนผลการตรวจสอบจากทางโรงพยาบาล เบื้องต้นยืนยันว่าพบคราบอสุจิ แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นชาติพันธุ์ใดหรือกลุ่มใด จึงได้ส่งไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมต่อไป
               “ประเด็นก็คือ ความผิดเกี่ยวกับการข่มขืนกระทำชำเรา ถ้าเป็นการสมยอม อายุเกินกว่า 15 ปี ไม่มีความผิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราเชื่อไว้ก่อนว่ามีการข่มขืน เนื่องจากพบคราบอสุจิ แต่ในส่วนที่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น เราต้องให้เกียรติสุภาพสตรีซึ่งเป็นชาวต่างชาติ โดยจะเร่งรัดผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ หากพบการตรวจสอบพบว่าคราบอสุจิดังกล่าวเป็นฝรั่ง ไม่ใช่คนเอเชีย ซึ่งอาจจะเป็นความผิดอื่นๆ ก็เป็นได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งพยายามเร่งรัดคลี่คลายให้แล้วเสร็จ สำหรับผู้ต้องหารายนี้ก่อนหน้านี้เคยมีประวัติเคยถูกจับติดคุกคดีข่มขืนมาก่อน” พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว
               ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชันได้ขออนุมัติหมายจับกุม นายเอกบุรุษ ฤทธิ์รักขพันธุ์ อายุ 32 ปี อาชีพขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ภายหลังจากเกิดเหตุและมีข่าวออกมา ได้หายตัวไป 3 วัน จากการตรวจสอบประวัติพบว่าก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุข่มขืนในพื้นที่ สน.บางยี่ขัน อย่างไรก็ตามทางชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวอยู่ เนื่องจากยังมีข้อสงสัยประเด็นที่เกี่ยวข้องว่า เหตุใดหญิงสาวชาวออสเตรเลียถึงได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายเอกบุรุษไปยังที่เกิดเหตุบริเวณตึกร้างพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน

               ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังการออกหมายจับ นายเอกบุรุษ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งหลักฐานสำคัญในการออกหมายจับนายเอกบุรุษ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาตามที่ น.ส.เบลล่า (นามสมมติ) อายุ 21 ปี นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียระบุว่า ถูกโชเฟอร์สามล้อพาไปข่มขืนบริเวณพงหญ้า ด้านหลังอาคารวัฎจักร ถ.บรมราชชนนีขาออก แขวงและเขตตลิ่งขัน กทม.นั้น

               โดยเริ่มจากบริเวณด้านหน้า สน.ชนะสงคราม ในช่วงเวลาที่กำหนดไม่พบว่ามีรถสามล้อวิ่งผ่านตามคำกล่าวอ้างของ น.ส.เบลล่าแต่อย่างใด จึงได้ตั้งข้อสังเกตใหม่ โดยมีการประสานไปยังกล้องวงจรปิดของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ใกล้กับศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ พระนคร พบเห็นรถจักรยานยนต์ ท่าทางมีพิรุธ ขับผ่านลักษณะวิ่งวนไปมาหลายรอบด้วยกัน จากนั้นตำรวจได้ทำการไล่เส้นทางก่อนหน้านี้ของนายเอกบุรุษ พบ รถจยย.คันดังกล่าว ขับวนเวียนผ่าน ถ.ข้าวสาร ถ.ตะนาว ถ.สิบสามห้าง ในช่วงเวลาประมาณ 03.09 น.เป็นต้นไปหลายรอบด้วยกัน
                และเมื่อทำการไล่กล้องวงจรปิดที่ใกล้กับ สน.ชนะสงคราม พบภาพรถจยย.ที่มีหญิงสาวซ้อนท้าย ขับขึ้นสะพานพระราม 8 โดยลักษณะขี่มุ่งหน้าไปทางอาคารวัฎจักร ถ.บรมราชชนนีขาออก แขวงและเขตตลิ่งชัน ซึ่งปรากฏภาพของนายเอกบุรุษชัดเจน