ข่าว

คลื่นซัดเรือลากจูงล่มสูญหาย3คนช่วยได้5คน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คลื่นซัดเรือลากจูงเรือโป๊ะล่มกลางทะเลหลังเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี สูญหายไปกลางทะเล 3 ราย เด็กอายุ 1 ขวบเศษ ผวจ.บินดูจุดเกิดเหตุเรือล่ม ประสานกองทัพเรือค้นหา

 

          วันที่ 1 ธ.ค.59 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้รับแจ้งมีเรือลากจูงล่มมีคนสูญหายจึงนำเรือกู้ชีพออกทำการช่วยเหลือลูกเรือลากจูงเรือโป๊ะที่ถูกคลื่นสูงกว่า 5 เมตร พัดถล่มจมลงที่บริเวณกลางทะเลรอยต่อระหว่างเกาะเต่าและเขตจังหวัดชุมพร

          ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่บนเรือที่กำลังจะจมทะเลจำนวน 5 คน และมีผู้สูญหายจมไปในทะเลจำนวน 3 รายเป็น พ่อ-แม่และลูกวัย 1 ขวบเศษ ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากเป็นเวลากลางคืนและคลื่นสูงกว่า 5 เมตร

          ต่อมาเวลา 22.00 น. ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยขึ้นจากเรือที่กำลังจมได้ 5 คนประกอบด้วย ด.ญ.ดาว ชาวพม่า อายุ 3 ขวบ ดช.ศุภชัย มีเมือง อายุ 2 เดือน ด.ญ.สุรีรัตน์ มีเมือง อายุ 3 ขวบ นางรัชนี ศรีมะโน อายุ 43 ปี และนางไข่ อายุ 32 ปี จึงรีบนำผู้บาดเจ็บเข้าฝั่งเนื่องจากทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรยอ่อนเพลียและบาดเจ็บเนื่องจากถูกคลื่นในทะเลซัดเป็นเวลานาน

          จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า เรือที่จมเป็นเรือลากจูงของบริษัทโชคหิรัญ ได้ทำการลากจูงโป๊ะบรรทุกไม้สักจำนวน 6 ลำออกจากท่าเรือปากน้ำตาปี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีลูกเรือทั้งหมดจำนวน 8 คน มุ่งหน้าสู่ท่าเรือบางประกง แต่ขณะเรือวิ่งผ่านบริเวณดังกล่าวเจอคลื่นสูงกัปตันเรือพยายามนำเรือเข้าหลบคลื่นลมที่ด้านหลังเกาะเต่าแต่ไปไม่ถึงถูกคลื่นพัดกระหน่ำจนจมลงเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญหายดังกล่าว

          หลังเกิดเหตุนายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประสานไปยังกองทัพเรือภาค 2 ออกดำเนินการค้นหาผู้สูญหาย ส่วนผู้บาดเจ็บขณะนี้ถูกส่งตัวเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะเต่า


 

ผวจ.บินดูจุดเกิดเหตุเรือล่ม ประสานกองทัพเรือหา3ผู้สูญหาย

          นายนพฤทธิ์ ชำนาญฤทธิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง ส่วนหน้าเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย นำเรือเร็วออกไปตรวจสอบเรือบาส 2 ลำ ที่เข้ามาจอดหลบลมอยู่บริเวณอ่าวด้านหน้าเกาะเต่า เนื่องจากเป็นเรือชุดเดียวกับที่ประสบเหตุ แต่เป็นเรือชุดแรกที่สามารถวิ่งเข้ามาหลบคลื่นลมได้โดยเจ้าหน้าที่นำอาหาร น้ำดื่ม ไปส่งให้กับผู้ประสบเหตุที่อยู่บนเรือดังกล่าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

         ในส่วนของเรือบาสอีก 3 ลำที่ยังลอยลำอยู่กลางทะเลในจุดเกิดเหตุ บริเวณหลังแท่นขุดสำรวจก๊าซธรรมชาติ ยังมีผู้ประสบเหตุอีก 5 ราย อยู่ที่เรือดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ส่งเรือเร็วเข้าไปดูแลความปลอดภัย พร้อมทั้งส่งอาหารให้บรรเทาความเดือดร้อน ส่วนการค้นหาผู้สูญหายชาวพม่า 3 ราย ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ เนื่องจากสภาพอากาศคลื่นลมแรง

         ขณะที่ นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้องรวมถึงทหาร นำเครื่องบินเล็กขึ้นบินตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อเตรียมแผนให้การช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด ขณะที่ผู้ประสบเหตุที่ช่วยเหลือได้ก่อนหน้านี้ ทั้งผู้หญิงและเด็ก

         คือ ด.ญ.ดาว (ชาวพม่า) อายุ 3 ขวบ ด.ช.ศุภชัย มีเมือง ด.ญ.สุรีรัตน์ มีเมือง อายุ 3 ขวบ นางรัชนี ศรีมะโน อายุ 43 ปี และนางไข่ (ชาวพม่า) อายุ 32 ปี ขณะนี้ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพเกาะเต่าโดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ