แค้นแทนน้องถูกเศรษฐีที่ดินเมืองกรุงหยามจ้างมือปืนฆ่า | คมชัดลึก

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 สิงหาคม พล.ต.ต.เฉลิมชัย จงศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (รอง ผบช. ภ.4) พ.ต.อ.จตุพล ปานรักษา รองผู้บังคับการศูนย์สืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 (รอง ผบก.ศสส.ภ.4) และ พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผู้กำกับการ (ผกก.) กลุ่มงานสืบสวน ศสส.ภ.4 ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชาว อ.เรณูนคร จ.นครพนม จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายเรือนคำ แพนสิงห์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 8 ต.เรณูใต้ เป็นมือปืน, นายกิตติชัย นามพลแสน อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 13 ต.โคกหินแฮ่ เป็นผู้จ้างวาน และนายสันต์ บุญชาญ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 8 ต.โคกหินแฮ่ ผู้รับงานและจัดหาอาวุธปืน พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีแดง ทะเบียน กนษ 419 นครพนม และปืนพกสั้นกึ่งออโตเมติก K54 ขนาด 7.65 มม. ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 6 นัด

 ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่านายกีรติศักดิ์ คชแก้ว อายุ 42 ปี เศรษฐีเจ้าของที่ดินและคอนโดมิเนียมหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร เสียชีวิตขณะมาคุมงานก่อสร้างบ้านให้ภรรยาคือ นางชนิดา คชแก้ว ที่บ้านหนองกวั่ง ต.หนองกวั่ง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร และยิงนายวัฒชิระ ปากชิน อายุ 32 ปี คนงานก่อสร้างบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา

 พล.ต.ต.เฉลิมชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สอบพยานจนพบว่า มือปืนรายนี้คือนายเรือนคำ ซึ่งหนีหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหารข้อหาฆ่าผู้อื่น และเมื่อปี 2535 เคยก่อเหตุยิงชาวลาวที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 จึงติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักใน อ.เรณูนคร เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ขยายผลสอบสวนไปติดตามจับกุมตัวนายกิตติชัย และนายสันต์ ได้ที่บ้านพัก จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านม่วง จ.สกลนคร พื้นที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดีต่อไป

 สอบสวนนายเรือนคำสารภาพว่า เมื่อเดือนมกราคม 2552 นายกิตติชัยคนรู้จักกันได้ติดต่อให้ฆ่านายกีรติศักดิ์ ในราคา 1.5 แสนบาท เพราะโกรธแค้นที่นายกีรติศักดิ์ อดีตสามีของนางพิมพ์ใจ นามพลแสน น้องสาวของนายกิตติชัย ด่าว่าน้องสาวถึงต้นตระกูล ทั้งที่เลิกรากันไปแล้วหลายปี และมีลูกด้วยกัน 3 คน แต่ระยะหลังอดีตน้องเขยไปมีภรรยาใหม่ และมาสร้างบ้านขนาดหรูราคากว่า 3 ล้านบาท ให้ที่ จ.สกลนคร จึงสร้างความเจ็บแค้นเป็นอย่างมาก

 เมื่อตกลงรับงานแล้วได้ไปดูลาดเลาหลายครั้ง แต่ไม่สบโอกาส เพราะเหยื่อเดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯ และสกลนคร ระหว่างนั้นได้รับเงินค่าจ้างมาแล้วหลายครั้ง รวม 1.3 แสนบาท และถูกเร่งรัดให้ลงมือ จึงวางแผนทำทีไปตีสนิทกับนายช่างที่รับเหมาก่อสร้างบ้านให้นายกีรติศักดิ์ กระทั่งเข้านอกออกในบ้านก่อสร้างได้

 หลังเฝ้ารอเวลามานานกว่า 3 เดือน ก็สบโอกาสเมื่อนายกีรติศักดิ์ เดินทางมาดูการก่อสร้าง จึงได้ซื้อเบียร์เข้าไปนั่งดื่มกับนายช่างและคนงานก่อสร้าง โดยชักชวนนายกีรติศักดิ์นั่งดื่มด้วย จากนั้นทำทีเป็นลุกเข้าห้องน้ำ เมื่อทุกคนเผลอจึงชักปืนยิงใส่เหยื่อเข้าที่ท้ายทอยจนล้มฟุบลง ก่อนที่จะวิ่งหนีมาขึ้นรถจักรยานยนต์ แต่เมื่อเห็นคนงานพยายามวิ่งตามจึงยิงปืนไปอีก 1 นัด แต่ไม่ทราบว่าถูกใครหรือไม่ หลังทำงานสำเร็จจึงได้หลบหนีมากบดานที่บ้าน เพราะคิดว่าอยู่คนละจังหวัดและไม่มีใครรู้ชื่อนามสกุลจริง ไม่น่าจะติดตามตัวได้ แต่ในที่สุดก็มาถูกจับกุมตัว

 พล.ต.ต.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า เบื้องต้นชั้นสอบสวน นายเรือนคำ มือปืน และนายกิตติชัย ผู้จ้างวานให้การรับสารภาพ ส่วนนายสันต์ คนชี้เป้าจัดหาปืนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา