ข่าว

“กากมัน+น้ำผงชูรส”เพิ่มน้ำนม“โคนม”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย - โต๊ะข่าวเกษตร

           อาหารสําหรับโคนมนั้น สวนใหญคลายกับอาหารโคเนื้อ ตางกันตรงที่ปริมาณโภชนาการบางอยางที่ต้องมีโปรตีนสูงเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการผลิตน้ำนม ดังนั้นการใหอาหารโคนมตั้งแต่ลูกโคไปจนถึงแม่โคจะต้องมีคุณค่าทางโภชนาการสูง หากไม่ให้ตามปริมาณที่กำหนด อาจจะเกิดผลเสียหายตามมาได้  

           ฉะนั้น ผู้เลี้ยงโคนมนอกจากจะให้อาหารหยาบ อย่างหญาสด หญาหมัก หญาแหงหรือฟางข้าวแล้ว ยังต้องให้ อาหารข้น ที่มีปริมาณโปรตีนสูงร่วมด้วยเพื่อการเจริญเติบโตและสามารถผลิตน้ำนมได้อย่างเต็มที่ แต่ปัจจุบันอาหารข้นสำหรับเลี้ยงโคนมที่จำหน่ายในท้องตลาดมีราคาค่อนข้างสูงส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงตามไปด้วย

 

“กากมัน+น้ำผงชูรส”เพิ่มน้ำนม“โคนม”

 

           ด้วยเหตุนี้ทำให้ ดร.พงศ์ธร คงมั่น อาจารย์ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ได้คิดค้นหาสูตรอาหารข้นเพื่อใช้เลี้ยงโคนม โดยนำกากมันสำปะหลัง จากโรงงานผลิตแป้งมันและ น้ำเหลือทิ้งจากโรงงานผลิตผงชูรส มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตจนประสบความสำเร็จหลังใช้เวลาทดลองวิจัยกว่า 2 ปี จนได้ปริมาณโปรตีนสูงไม่ต่างจากกากถั่วเหลืองนำเข้าจากต่างประเทศ ที่สำคัญมีราคาที่ต่ำกว่ามาก และยังเป็นการนำเศษวัสดุเหลือทิ้งมาเพิ่มมูลค่าเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาคการเกษตรด้วย  

           "จริงๆ แล้วน้ำเหลือทิ้งจากโรงงานผลิตผงชูรสนั้นมีปริมาณโปรตีนสูงมาก แต่ก่อนเอาไปทำปุ๋ยน้ำ บังเอิญว่าธุรกิจปุ๋ยแข่งขันสูงทำให้การขายนั้นยากขึ้น จึงได้คิดค้นวิธีทำอย่างอื่น และเมื่อตรวจองค์ประกอบทางเคมีเหมาะที่จะนำมาเป็นส่วนผสมผลิตอาหารให้กับสัตว์เคี้ยวเอื้อง โดยเฉพาะโคนมที่มีความต้องการอาหารประเภทนี้สูงมากเป็นพิเศษ ทางโรงงานสนใจเราก็เลยเอามาทดลองในโคนม ปรากฎว่าใช้ได้ แต่ปัญหาคือพอเป็นน้ำเมื่อนำมาผสมในอาหารจะเก็บได้ไม่นาน 7-8 วันก็จะเกิดเชื้รา" ดร.พงศ์ธรย้อนที่มา

 

“กากมัน+น้ำผงชูรส”เพิ่มน้ำนม“โคนม”

 

          จากนั้นจึงได้คิดค้นสูตร ด้วยนำน้ำเหลือทิ้งจากโรงงานผงชูรสผสมกับกากมันสำปะหลังมาเป็นสื่อผสมในการผลิตอาหารข้นสำหรับเลี้ยงโคนม จากการทดลองพบว่าเมื่อนำกากมันสำปะหลังมาผสมกับน้ำผงชูรสทำปฏิกริยากันแล้วในอุณหภูมิที่เหมาะสม จากโปรตีนที่2% กระโดดถึง 30% โปรตีนเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งโปรตีนตรงนี้เกษตรกรสามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์ได้ โดยเฉพาะโคนม ขณะเดียวกันเกษตรกรก็ไม่ลำบากในการหาสองสิ่งนี้ 

         "เมื่อนำมาน้ำทิ้งผสมกับกากมันสำปะหลังแล้ว จากนั้นนำตากแห้งด่ินเข้าสู่กระบวนการตีผงและอัดเม็ดเพื่อจะได้เก็บไว้ได้นานและคุณค่าทางโภชนาการไม่เสีย ซึ่งสามารถเก็บได้นาน 6-8 เดือน ปกติกากถั่วเหลืองที่ใช้ผลิตอาหารสัตว์จะต้องนำเข้าจากต่างประเทศและมีต้นทุนที่สูง เมื่อเทียบกับกากมันสำปะหลัง โดยเฉลี่ยต้นทุนผลิตโปรตีนจากกากมันสำปะหลัง 1 กิโลกรัมอยู่ที่ 16 บาท ซึ่งจะต่ำกว่ากากาถั่วเหลืองเกือบครึ่งหนึ่ง จึงเป็นทางเลือกให้เกษตรกรเลี้ยงโคนมใช้วัตถุดิบผลิตอาหารข้นในราคาที่ถูกลง" 

 

“กากมัน+น้ำผงชูรส”เพิ่มน้ำนม“โคนม”

 ดร.พงศ์ธร คงมั่น

 

          นับเป็นอีกทางเลือกสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในการลดต้นทุนและเพิ่มปริมาณน้ำนมในการนำของเหลือทิ้งกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ อีกทั้ง ยังเป็นการลดการนำเข้ากากถั่วเหลืองจากต่างประเทศอีกด้วย  

                                                                                                

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ