
เดินตามรอยพ่อ”หัวหิน-เพชรบุรี" เรียนรู้แนว“กษัตริย์เกษตร"
โดย - ดลมนัส กาเจ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมการบริหารสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย และสมาชิกบางส่วน เดินทางไปทำข่าวโครงการพระราชดำริในพระบามสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เริ่มจาก โครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการพระราชดำริด้านชลประทานแห่งแรกของพระองค์ และไปจบที่โครงการช่างหัวมัน ซึ่งเป็นโครงการส่วนพระองค์โครงการสุดท้าย
โครงการพระราชดำริแต่ละโครงการ จะเน้นสภาพของแต่ละพื้นที่ อย่างโครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่าฯ เกิดจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จเยือนประชาชน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี 2506 ทรงเห็นความลำบากของประชาชนในหมู่บ้านเขาเต่า ต.หนองแก ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำที่จะใช้อุปโภค - บริโภค และช่วงน้ำทะเลขึ้นก็จะไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรทุ่งตะกาด ทำให้ผลผลิตเสียหาย
พระองค์ท่านได้มอบทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 6 หมื่นบาทให้กรมชลประทาน ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่า หลังจากที่ราษฎรรวมตัวกันน้อมเกล้าถวายที่ดินแด่พระองค์ จำนวน 300 ไร่ ทำให้ทุกวันนี้ชาวบ้านมีน้ำอุปโภค-บริโภค และยังมีชาวบ้านส่วนหนึ่งอาศัยอ่างเก็บน้ำแห่งนี้เลี้ยงปลาในกระชั่งเป็นอาชีพเสริม ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรหากฟังคนรุ่นเก่าเล่าให้ฟังแล้วจะซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้ชุบชีวิตชาวเขาเต่าอย่างแท้จริง
หลังจากไปสัมผัสกับชาวบ้านที่บ้านเขาเต่าแล้ว ขากลับแวะที่อุทยานราชภักดิ์ ชมความยิ่งใหญ่ของพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์ 7 พระองค์ แห่งสยามประเทศ ก่อนไปที่ศูนย์ศึกการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 9 ได้พระราชทานพระราชดำริให้พัฒนาพื้นที่บริเวณห้วยทราย เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาด้านป่าไม้อเนกประสงค์ โดยเน้นการเอาชนะดินด่านด้วยการปลูกหญ้าแฝก
ช่วงบ่ายแก่เราไปที่โครงการตามพระราชประสงค์หุบกระพง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริ ที่เน้นในด้านสหกรณ์ ภายในโครงการนี้มีศูนย์เรียนที่น่าสนใจมากมาย รุ่งขึ้นไปยัง โครงการชั่งหัวมัน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี อีกหนึ่งโครงการที่ทรงมีพระราชดำริให้ตั้งขึ้น เพื่อเป็นศูนย์รวมพืชเศรษฐกิจของ อ.ท่ายาง โดยเลือกพันธุ์พืชท้องถิ่นที่ดีที่สุดเข้ามาปลูก แล้วให้ภาครัฐและชาวบ้านช่วยกันดูแล เน้นการทำเกษตรในรูปแบบการตลาดนำการผลิต หรือเกษตรอุตสาหกรรม
ด้านการเกษตรต้องยอมรับในพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านที่ทรงวิสัยทัศน์อันยาวไกลในทุกมิตติ ตั้งแต่การเอาชนะธรรมชาติ ทั้งเรื่องดิน น้ำ สหกรณ์ การตลาด มีที่น้อยต้องยึดหลักตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีที่เยอะเกษตรอุตสหกรรมเน้นการตลาดนำการผลิต เป็นต้น
ตรงนี้อยากฝากผู้ที่สนใจอาชีพด้านการเกษตร หากยึดตามแนวพระองค์ท่าน รับรองไม่มีปัญหาตามมา ทางที่ดีหากมีเวลาไปศึกษาตามโครงการพระราชดำริของพระองค์ แล้วน้อมนำในการปฏิบัติ ความสำเร็จในอาชีพเกษตรมีแค่เอื้อมครับ
สุดท้ายไปจบที่สหกรณ์การเกษตรท่ายาง อ.ท่ายาง ไปดูเกษตรกรที่นั่นประสบผลสำเร็จในการปลูกกล้วยหอมส่งออก ส่งเซเว่นอีเลฟเว่น และส่งห้างโมเดลเทรด ส่วนรายละเอียดไว้ติดตามที่หลัง
หากสนใจเดินตามรอยพ่อกับสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย การปลูกกล้วยหอมส่งตลาดบน ราวกลางเดือนธันวาคม 2559 สอบถามได้ที่ 0-2940-5426 และ 08-6340-1713 ครับ