ดวงกุด!!“หนุ่มวัยเบญจเพส”ซิ่งจยย.เสยบันไดสะพานลอยดับ | คมชัดลึก

          เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 28 พ.ย.59  ร.ต.อ.สง่า มูลจัด รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งชนบันไดทางขึ้นสะพานลอยข้ามถนนที่บริเวณถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่30 หน้าโรงเรียนปราณีเนาวบุตร หมู่3 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีผู้เสียชีวิต หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ เดินทางเข้าตรวจสอบ

          ในที่เกิดเหตุได้พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีขาวแดง ทะเบียน ฬนม706กรุงเทพมหานคร ชนอัดอยู่กับช่องใต้บันไดทางขึ้นสะพานลอยข้ามถนนในสภาพพังยับเยินและมีจักรยานสองล้อปั่นของชาวบ้านที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายอีกหลายคัน ยังพบศพนาย มงคลชัย รัชตะบุตร อายุ 25 ปี อยู้บ้านเลขที่33 ซอย4(แสนสุข) ถนนวัดกลาง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ใต้สะพาน ในสภาพกะโหลกศีรษะแตกตามตัวมีบาดแผลหลายแห่ง จึงได้มอบศพผู้เสียชีวิตให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช

          จากการสอบถามนายปิยณัฐ คุนาปฐม อายุ 24 ปี เพื่อผู้ตายได้เล่าว่า ผู้ตายทำงานที่บริษัท อาบาเทค ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอย11 นิคมอุตสาหกรรมส่งออก ในแผนกช่างซ่อมบำรุง วันนี้เป็นวันหยุดผู้ตายได้มานั่งดูตนแข่งฟุตบอลที่สนามฟุตซอลปากทางเข้าวัดอโศการาม หลังจากที่ตนและพวกแข่งขันกันเสร็จจึงได้ชักชวนกันขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน โดยที่ตนได้ขับนำหน้าผู้ตายมาด้วยความเร็วในขณะมาถึงที่เกิดเหตุตนได้ยินเสียงคล้ายรถชนอะไรบ้างอย่างเสียดังสนั่น ตนจึงได้มองกระจกมองข้างได้พบเห็นชาวบ้านพากันวิ่งมาดูที่ใต้สะพานลอยตนจึงได้วนรถและขี่ย้อนศรขึ้นมาและเข้าไปดูที่เกิดเหตุได้พบว่า ผู้ตายได้ขับรถจักรยานยนต์พุ่งชนรถจักรยานสองล้อปั่นของชาวบ้านที่เอามาจอดลามโซ่เอาไว้จนพังได้รับความเสียหายจำนวนหลายคัน ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปชนกับขั้นบันไดทางขึ้นสะพานลอยส่วนผู้ตายนอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ

          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ขณะที่ผู้ตายขับขี่รถจักยานยนต์มาด้วยความเร็วประกอบกับอาการมึนเมาสุรามาถึงที่เกิดเหตุรถอาจจะเสียหลักจึงได้ขับพุ่งเข้าไปในช่องปูนใต้สะพานลองชั้น2 และศีรษะไปกระแทกกับปูนขั้นบันใดทางขึ้นสะพานลอยดังกล่าวและศีรษะไปกระแทกกับปูนขั้นบันใดทางขึ้นสะพานลอยทำให้ศีรษะแตกเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป