AvarinปลุกกระแสSports Outdoor ธุรกิจออนไลน์สู่ร้านกีฬาชั้นนำ
นพ.อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา ผู้ก่อตั้ง Avarin Multisport Store เริ่มจากขายของออนไลน์ทุนไม่กี่แสนบาท จนกลายมาเป็นร้านสปอร์ตส์ เอาท์ดอร์ หลักสิบล้าน
ช่วง 5 ปีมานี้ ธุรกิจอุปกรณ์กีฬาเฉพาะทางแบบ “สปอร์ตส์ เอาท์ดอร์” เติบโตอย่างรวดเร็วในเมืองไทย จากเดิมมีผู้ประกอบการอยู่เพียงไม่กี่ราย กระทั่งปัจจุบันมีเจ้าของร้านรายใหม่เกิดขึ้นนับ 10 รายแล้ว ชี้ให้เห็นถึงกระแสความนิยมการออกกำลังกายกลางแจ้งของคนไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าพอใจ
นพ.อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา หรือ “หมอแอร์” กรรมการผู้จัดการบริษัท Avarin Inter Group Company Limited หรือผู้ก่อตั้ง Avarin Multisport Store คือหนึ่งในผู้ที่มีส่วนกระตุ้นความคึกคักของธุรกิจนี้ เขาเริ่มจากขายของออนไลน์ด้วยเงินทุนไม่กี่แสนบาท แต่เป็นที่ถูกอกถูกใจของคอกีฬาจนกลายมาเป็นร้านสปอร์ตส์ เอาท์ดอร์ แถวหน้าของไทยที่มีเงินหมุนเวียนถึงราว 60-80 ล้านบาท!
หมอแอร์ กล่าวว่า ร้านอุปกรณ์กีฬาแบ่งเป็นสองกลุ่มหลักๆ กลุ่มแรกพวกห้างใหญ่อย่างดีพาร์ตเมนต์สโตร์ มีสินค้ากีฬาหลากหลายเกือบทุกชนิด สินค้าจะมาจากผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีแบรนด์เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ส่วนอีกกลุ่มเป็นร้านอุปกรณ์กีฬาแบบเฉพาะทาง แบรนด์สินค้าจะผลิตเฉพาะกีฬานั้นๆ อย่างร้านของเราเป็นแบบเฉพาะทางเน้นสปอร์ตส์ เอาท์ดอร์ หรือกีฬากลางแจ้ง โปรดักส์ของเราจะแยกกลุ่มเฉพาะในแต่ละชนิดกีฬา เช่น แบรนด์ที่ผลิตถุงเท้าวิ่งก็จะผลิตถุงเท้าวิ่งอย่างเดียว เรียกว่าเป็นเทคนิคอล แบรนด์ หาซื้อไม่ได้ตามตลาดทั่วไป ต้องมาซื้อในร้านเฉพาะทาง
ก่อนจะมาเป็น “เอวาริน มัลติสปอร์ต สโตร์” แหล่งรวมอุปกรณ์กีฬากลางแจ้งอย่างวิ่ง จักรยาน ว่ายน้ำ หมอแอร์ วัย 42 ปี กล่าวว่า เริ่มจากความรักในการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายของเขาเอง
“ผมชอบเล่นกีฬาตั้งแต่เด็กๆ สมัยเรียนประถมที่โรงเรียนทิวไผ่งาม ผมเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ โตขึ้นก็มาเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของมหาวิทยาลัยมหิดล ชีวิตเราคลุกคลีอยู่กับวงการกีฬามาตลอด พอจบออกมาเป็นหมอโรคหัวใจก็ยังคงเข้ายิมเล่นฟิตเนสอยู่เป็นประจำ จนถึงช่วงปี 2554 รุ่นพี่ที่เป็นหมอด้วยกันชวนไปวิ่งเอาท์ดอร์ เป็นการวิ่งออกไปนอกสถานที่ เราเคยแต่วิ่งบนลู่วิ่งสายพาน วิ่งไปดูทีวีไป พอได้ออกไปสัมผัสบรรยากาศข้างทาง มีลมมาปะทะร่างกายก็รู้สึกว่าสนุกดี ก็เลยวิ่งเอาท์ดอร์เรื่อยมา
เมื่อวิ่งถึงจุดหนึ่งเริ่มรู้สึกว่าตัวเองน่าจะมีเป้าหมายในการออกกำลังกาย แม้ไม่ใช่นักกีฬา แต่ก็อยากรู้ว่าเรามีการพัฒนาขึ้นแค่ไหน สมัยนั้นมีอุปกรณ์อย่างนาฬิกาวัดแคลอรี่ วัดชีพจร ก็ลองหามาใช้ดู อุปกรณ์พวกนี้ทำให้เรามีเป้าหมายชัดเจนขึ้นกับการออกกำลังกาย ทำให้รู้ว่าเราจะออกกำลังเพื่อความฟิต เพื่อลดน้ำหนัก หรือเพื่ออะไร อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มความสนุกในการออกกำลังกายได้ดี”
หลังจากสั่งซื้ออุปกรณ์กีฬาจากต่างประเทศมาใช้ ก็เริ่มมีเพื่อนในกลุ่มที่ออกกำลังกายด้วยกันฝากซื้อบ้าง จนมาถึงจุดที่รู้สึกว่าน่าจะนำอุปกรณ์เหล่านี้มาขาย จึงเริ่มติดต่อนำสินค้าเข้ามา ซึ่งสินค้าตัวแรกคือ นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ Mio (มีโอ) สำหรับวัดชีพจรที่ข้อมือรุ่นแรกๆ
“ผมลงทุนสั่งสินค้าลอตแรกไปประมาณ 3-4 แสนบาท นำมาขายทางเว็บไซต์ ตอนนั้นถือเป็นสินค้าใหม่มาก ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่คนจะเริ่มสนใจ แต่สื่ออินเทอร์เน็ตก็ช่วยได้เยอะ จากช่วงแรกๆ ต้องใช้เวลาแนะนำสินค้าแต่ละชิ้นนานเป็นชั่วโมง ต่อมาคนได้ข้อมูลจากสื่อออนไลน์มากขึ้น สินค้าก็กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ลูกค้าเริ่มมองหาสินค้าใหม่ๆ โดยที่เราไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากแล้ว”
หมอแอร์ ทำการตลาดทางโซเชียลมีเดียตั้งแต่ปี 2557 โดยมุ่งเน้นให้ความรู้เรื่องการออกกำลังกาย ถ่ายทอดความรู้ทางด้านการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกกำลังกาย การดูแลตนเอง การบาดเจ็บ จนเฟซบุ๊ก Avarinshop เป็นเฟซบุ๊กอันดับ 1 ของเมืองไทยในด้าน sports and recreation ซึ่งหลังจากขายผ่านออนไลน์ได้ปีกว่าๆ มีสินค้าหลากหลายมากขึ้นนับ 10 แบรนด์ จึงต้องเปิดหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเห็นสินค้าของจริงและทดลองใช้
“เราเปิดเอวาริน มัลติสปอร์ต สโตร์ สาขาแรกที่ราชพฤกษ์ ควบคู่กับสาขาที่สยาม และขยายไปอีกหลายสาขาทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด นอกจากนี้เรายังเริ่มเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งหลายอันสามารถขายได้โดยตรงไม่ต้องผ่านประเทศสิงค์โปร์ ทำให้รายได้ไม่รั่วไหล”
สำหรับหลักการดำเนินธุรกิจนั้น หมอแอร์ ซึ่งยังใช้เวลาช่วงเสาร์-อาทิตย์ เรียนปริญญาโทสำหรับผู้บริหาร (XMBA) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยว่า จะเน้นเปิดมุมมองใหม่ให้คนเห็นถึงคุณค่าและประโยชน์ของการออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์ของเอวาริน ไม่เจาะจงเฉพาะกลุ่มลูกค้านักกีฬา แต่เปิดรับตั้งแต่มือใหม่ โดยตั้งใจจะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ส่งเสริมให้คนหันมาใส่ใจสุขภาพ ด้วยการให้บริการแบบผู้เชี่ยวชาญ ให้ความรู้ทางเทคนิคการแพทย์ หรือเชิงวิทยาศาสตร์ รวมทั้งพยายามนำสินค้าที่ผ่านการคัดสรร ที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ตอบโจทย์ลูกค้าที่ออกกำลังกายและอยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น คนกลุ่มนี้จะเข้ามาเป็นลูกค้าของเอวารินในอนาคต
นอกจากผู้ก่อตั้งเอวาริน อินเตอร์ กรุ๊ป จะเป็นหมอโรคหัวใจแล้ว เขายังจัดว่าเป็นนักกีฬาที่เอาจริงเอาจังกับการแข่งขันมากคนหนึ่ง ถึงขนาดบินไปร่วมรายการไตรกีฬาระดับโลกอย่าง “DATEV Challenge Roth 2016” ที่ประเทศเยอรมนี เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองมาแล้ว
“ผมไปแข่งขันไอรอนแมน หรือไตรกีฬาระยะไกลสุด (ว่ายน้ำ 3.8 กม./ จักรยาน 180 กม./ วิ่ง 42 กม.) ในรายการชาลเลนจ์ ร็อธ ซึ่งยังไม่มีแข่งในเมืองไทย คนไทยกลุ่มหนึ่งจึงต้องตระเวนไปแข่งที่ต่างประเทศ ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผมกับกลุ่มคนไทย 40 คนไปกันถึงเยอรมนี เป็นรายการที่จัดได้ดีมาก มีคนมาเชียร์ตลอดสองข้างทางกว่า 2 หมื่นคน เขาเปิดรับสมัครทางออนไลน์เพียง 40 วินาทีคนก็สมัครจนเต็ม แต่พวกเราสมัครผ่านเอเย่นต์จึงสมัครได้เป็นกลุ่มใหญ่”
เมื่อประสบความสำเร็จกับงานหลายด้านจึงต้องถามคุณหมอว่าแบ่งเวลาอย่างไร ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าหากสนใจทำอะไรหลายๆ อย่างก็จำเป็นจะต้องมีวินัยกับตัวเองและวางแผนการทำงานให้ลงตัวที่สุด
“ช่วงแรกที่ธุรกิจกำลังโต เราเริ่มบริหารเวลายากขึ้นเพราะต้องทำงานที่โรงพยาบาล 5 วันในหนึ่งสัปดาห์ จากที่ทำธุรกิจกันเองในครอบครัวก็เริ่มมีพนักงาน ผมจึงตัดสินใจลดเวลางานแพทย์เหลือ 2 วัน แบ่งมาทำธุกิจ 3 วัน และเรียนปริญญาโท 2 วัน รวมทั้งยังแบ่งเวลาสำหรับการฝึกซ้อมกีฬา โดยเฉพาะในช่วงเตรียมตัวก่อนแข่งรายการใหญ่ๆ จะต้องจัดตารางซ้อมแบบเข้มข้นเป็นเดือนๆ ถ้าเป็นช่วงปกติผมจะขับรถไปวิ่งที่พุทธมนฑล หรือสวนลุม หากทำไม่ได้ก็จะวิ่งในหมู่บ้านย่านนนทบุรี ได้ระยะประมาณ 2 กม. คนเรามีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมง อยู่ที่ใครจะสามารถแบ่งเวลาให้ลงตัว แต่ก็ต้องยืดหยุ่นได้ เพราะไม่มีอะไรลงตัวร้อยเปอร์เซ็นต์”
หมอแอร์ ยังให้คำแนะนำในการเริ่มต้นธุรกิจด้วยว่า
ประการแรกต้องมีความสุขกับมัน ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เมื่อมีความรักก็จะทุ่มเทให้กับสิ่งนั้น ประการถัดมา ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ พยายามเรียนรู้เพิ่มเติม ขอคำชี้แนะจากที่ปรึกษา หรือผู้มีประสบการณ์ และประการสุดท้าย ต้องมีเป้าหมาย เช่นเดียวกับการออกกำลังกายที่มีเป้าหมายว่าต้องการไปถึงจุดไหน การทำธุรกิจก็ต้องมีเป้าหมายเช่นกันจึงจะทำให้ประสบความสำเร็จ...
ดุลภณ ทองสุกฉวี : เรื่อง