“แฮปปี้ แฟมิลี่”แตงโมไร้เมล็ด งานวิจัยเด่น“ซินเจนทา ซีด” | คมชัดลึก

 

            ไม่ได้มีชื่อเสียงแค่ข้าวโพด พริกและมะเขือเทศเท่านั้น แต่ ซินเจนทรา ซีด (ประเทศไทย)ยังมีผลิตภันธุ์ตัวใหม่ใช้เวลาในการปรับปรุงพันธุ์และทดลองวิจัยในแปลงสาธิตมากว่า 2 ปีจนประสบความสำเร็จและขยายผลสู่เกษตรกรในทุกภูมิภาคของประเทศในปัจจุบัน สำหรับ"แตงโมไร้เมล็ดพันธุ์แฮปปี้ แฟมิลี่(Happy Famaly)"ผลใหญ่เนื้อแน่น รสชาติหวาน กรอบ อร่อย ซึ่งเป็นผลงานวิจัยเด่นของ“สุริยนต์ สุภาพ”นักปรับปรุงพันธุ์และผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมล็ดพันธุ์แตงโม บริษัท ซินเจนทา ซีด(ประเทศไทย)จำกัด ประจำสถานีวิจัยและพัฒนา ซินเจนทา จ.ขอนแก่น ปัจจุบันได้นำมาส่งเสริมปลูกทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคอีสานถือเป็นแหล่งผลิตใหญ่ที่สุดในขณะนี้

            สุริยันต์เผยว่าได้เริ่มปรับปรุงพันธุ์แตงโมไร้เมล็ดแฮปปี้แฟมิลี่ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว จนประสบผลสำเร็จและนำมาขายผลสู่แปลงของเกษตรกรเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาในพื้นที่ทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะภาคอีสานถือเป็นแหล่งปลูกที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน จุดเด่นผลใหญ่ ทนโรคแมลงและเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่แห้งแล้งกันดารและใช้น้ำน้อยกว่าพันธุ์ทั่วไปเหมาะสำหรับปลูกหลังนาเพื่อเสริมรายได้ให้กับเกษตรกร หลังฤดูเก็บเกี่ยว ที่สำคัญมีระยะเวลาตั้งแต่ปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยวสั้นเพียง 40-45 วันเท่านั้น

 

 

            "เริ่มจากนำเมล็ดมาเพาะเมล็ดบนถาดเพาะ ใช้วัสดุเพาะกล้า บ่มไว้ 3 วัน จนมีรากงอก แล้วเปิดผ้าออก รดน้ำให้รากงอกยาวขึ้น จนต้นกล้าอายุ 15 วัน จึงย้ายไปลงแปลงปลูก หากปลูกในโรงเรือน ให้ย้ายลงปลูกในกระถาง วางกระถางระยะ 50x50 ซม. โรงเรือนขนาด 10x20 เมตร จะได้แตงโม 500 ต้น โดย 400 ต้นจะเป็นแตงพันธุ์แฮปปี้แฟมิลี่ อีก 100 ต้นเป็นพันธุ์โบอิ้ง787หรือตอบิโด เพื่อใช้เป็นเกสรผสมดอกพันธุ์ไร้เมล็ด"

           นักปรับปรุงพันธุ์คนเดิมกล่าวต่อว่าหากปลูกนอกโรงเรือน 1 ไร่จะปลูกได้ 1,000 ต้น ประกอบด้วยแตงโมพันธุ์โบอิ้ง787หรือพันธุ์ตอบิโด 300 ต่อ 700 ต้น ส่วนการเตรียมดินนอกโรงเรือนให้ไถปรับสภาพ ทิ้งไว้ 7 วัน ไถปั่นดินให้ละเอียด แล้วตีแปลงยกร่อง ใส่ปุ๋ยอินทรีย์รองพื้นช่วยบำรุงธาตุอาหาร ไม่นิยมใช้ปุ๋ยมูลสัตว์เพราะมักมีเชื้อราทำลายต้นในระยะต่อมา ในขณะช่วงย้ายต้นกล้ามาปลูกในแปลงปลูกควรให้อะบาเม็กซิน ช่วยกำจัดเพลี้ยไฟระยะอนุบาล ฉีดพ่น 5 วันต่อครั้ง 10 วันต่อครั้งและ 15 วันต่อครั้ง หมั่นคอยสังเกตุดูแล ควบคุมโรคและแมลง โดยในระยะอนุบาลนั้นจะต้องให้น้ำแบบหยด เช้า,เที่ยง,เย็น ช่วงละ 5 นาทีของทุกวัน 

 

 

           สุริยันต์ระบุอีกว่าสำหรับการให้น้ำนอกโรงเรือน สามารถใช้น้ำระบบพุ่งหรือน้ำหยดลงดินได้โดยตรง ต้นแตงโมจะได้แสง และน้ำดีกว่าในโรงเรือนจึงเจริญเติบโตดีกว่าในโรงเรือน เป็นระยะเวลา 15 วันสำหรับพื้นที่นอกโรงเรือนจะพบ แมลงรบกวนต้นอ่อนแตงโม สามารถให้ อะบาเม็กซิน หรือใช้น้ำหมักยูคาลิป ผสมกับสะเดาเพื่อไล่แมลง เพลี้ย หรือแมลงเต่าทองได้หรืออาจใช้น้ำส้มควันไม้ ช่วยไล่เพลี้ยหนอน สามารถผสมน้ำฉีดพ่น ทุก 3- 5 วัน

          "ระยะที่แตงโมออกดอก สามารถให้ฟอสฟอรัส เพื่อเร่งดอกสำหรับการผสมเกสร ให้สังเกตว่าข้อที่เหมาะจะเลี้ยงให้ติดผลแตงนั้นควรเป็นข้อที่ 15 ขึ้นไปที่จะเจริญเติบโตได้ดี ลูกจะไม่บิดเบี้ยว พอถึงระยะ 25-30 วัน ให้ผสมเกสรตัวผู้จากแตงโมตอบิโดพันธุ์โบอิ้ง 787 เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์จะทำให้ผลผลิตแตงโมที่ได้ไร้เมล็ด เมื่อแตงโมติดลูก สามารถบำรุงด้วยการให้ปุ๋ยเกร็ด หรือแคลเซียมโบล่อนที่ช่วยบำรุงผล ให้สีแดง เนื้อแน่น กรอบ และหวาน ผลไม่แตก ช่วยในเรื่องโครงสร้างของเปลือกแตงโมให้แข็งแรงและสามารถเก้บเกี่ยวผลผลได้ที่ 40-45 วัน"นักปรับปรุงพันธุ์คนเดิมให้รายละเอียดทิ้งท้าย

         แตงโมไร้เมล็ดพันธุ์แฮปปี้ แฟมิลี่(Happy Family)นับเป็นอีกก้าวของซินเจนทา ซีดในการปรับปรุงพันธุ์เพื่อเพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรผู้ปลูกแตงโมในการสร้างอาชีพและรายได้ที่ดีขึ้น