
แก๊งฮัลโหล นักสร้างเรื่อง(ร้าย)
คอลัมน์ เพื่อนแท้การเงิน โดย...ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. /www.1213.or.th โทร 1213
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างเช่นโทรศัพท์มือถือ แม้จะช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันให้เราได้มากมาย แต่ก็เป็นช่องทางให้ภัยทางการเงินวิ่งมาหาถึงตัวเลยทีเดียว ที่ผมกำลังจะพูดถึงก็คือ ภัยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั่นเอง แม้ภัยประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็พบว่ามีคนโดนหลอกอยู่เรื่อยๆ มาดูกันว่าอะไรทำให้ภัยร้ายนี้ไม่ตายจากไปง่ายๆ
การสร้างเรื่องหลอกให้เราตกใจหรือกลัว เป็นวิธีที่มิจฉาชีพใช้ และมักสร้างเรื่องใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เช่น อ้างว่าโทรมาจากแบงก์ชาติ สถาบันการเงิน หรือหน่วยงานของรัฐ เช่น ปปง. ตรวจพบบัญชีของเราพัวพันกับยาเสพติดหรือการฟอกเงิน มีรายการใช้บัตรเครดิตผิดปกติ มีการโอนเงินผิดหรือมีเงินผิดกฎหมายโอนเข้าบัญชี และเดี๋ยวนี้มิจฉาชีพยังสามารถปลอมเบอร์โทรศัพท์ได้ด้วย โดยแสดงเลขหมายที่โทรเข้าให้ตรงกับหมายเลขโทรศัพท์ขององค์กรที่แอบอ้าง ก็ยิ่งทำให้เราหลงกลได้ง่าย
จากนั้นมิจฉาชีพจะพูดจาหว่านล้อม หลอกถามข้อมูลส่วนตัว แล้วหลอกล่อให้เรา โอนเงินไปให้โดยอ้างว่าเพื่อทำการตรวจสอบ หรืออาจหลอกให้ไปทำรายการที่เครื่องเอทีเอ็มแต่แท้จริงแล้วคือการโอนเงินไปให้มิจฉาชีพโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว ความจริงที่ต้องรู้คือ สถาบันการเงินหรือองค์กรต่างๆ ไม่มีนโยบายสอบถามข้อมูลส่วนตัว หรือขอให้ทำรายการที่เครื่องเอทีเอ็มผ่านทางโทรศัพท์ และแบงก์ชาติเองก็ไม่มีการทำธุรกรรมทางการเงินกับประชาชนโดยตรง
วิธีป้องกันภัยแบบง่ายๆ คือ มีสติครับ ฟังและทบทวนดูก่อนว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของแบงก์ชาติ ของสถาบันการเงิน หรือของรัฐจริงหรือเปล่า ควรวางสายและโทรกลับไปยังหน่วยงานนั้นๆ ด้วยตนเองเพื่อสอบถามให้แน่ใจ ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัวแก่บุคคลที่โทรเข้ามา และที่สำคัญห้ามทำรายการที่เครื่องเอทีเอ็มตามคำบอกผ่านทางโทรศัพท์อย่างเด็ดขาด
แต่ถ้าพลาดพลั้งตกเป็นเหยื่อไปแล้ว ให้ติดต่อสถาบันการเงินเพื่อแจ้งระงับการโอนเงินทันที และให้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องนำไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ ท้องที่เกิดเหตุ รวมทั้งแจ้งเบาะแสไปยังดีเอสไอ เพื่อสืบสวนและหาผู้กระทำผิดต่อไป อย่างไรก็ดี โอกาสได้เงินคืนนั้นยากมากครับ เพราะมิจฉาชีพมักถอนเงินออกไปทันทีตั้งแต่เราโอนเงินออกไป หากไม่อยากช้ำใจ รู้รอดปลอดภัยด้วยการป้องกันไว้ย่อมดีกว่าครับ



