"พลูคาว"บรรเทาริดสีดวง-กามโรค | คมชัดลึก

 

          "พลูคาว" เป็นพืชที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ พบตามริมห้วย ลำธาร ที่ชื้นแฉะริมน้ำ หรือตามต้นไม้ใหญ่ที่มีความชื้นสูง เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ทางยามากมาย โดยเฉพาะในโหมดแก้ริดสีดวงทวาร กามโรค น้ำเหลืองเสีย โรคผิวหนังต่างๆได้ผลดีทีเดียว

           เป็นไม้ล้มลุก ขนาดเล็ก ตระกูลเดียวกับพลู ในวงศ์ SAURURACEAE ชื่อวิทยาศาสตร์ Houttuynia cordata Thumb. ชื่อพื้นเมืองอื่น ผักก้านตอง (แม่ฮ่องสอน) ; ผักเข้าตอง, ผักคาวตอง (ภาคเหนือ) ; ผักคาวทอง, พลูแก (ภาคกลาง)

          ลำต้น อวบน้ำ มีขนเล็กน้อย สูง 15-40 ซม. ต้นเอียงไม่ตั้งตรง ส่วนที่เลื้อยไปตามดินมีรากแตกออกตามข้อ ทั้งต้นมีกลิ่นคาว คล้ายกลิ่นคาวปลา

 

 

          ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันตามข้อลำต้น รูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดหรือรูปหัวใจ ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ โคนใบจะเว้าเป็นรูปหัวใจ แผ่นใบสีเขียวตองอ่อน ท้องใบมีเส้นสีม่วงอ่อน ใบกว้าง 4-6 ซม. ยาว 3-8 ซม. ก้านใบส่วนโคนแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น มีหูใบติดอยู่กับก้านใบ

          ดอก ออกดอกเป็นช่อตามปลายยอดหรือดอกเดี่ยวๆ มีใบประดับสีขาว 4 ใบที่โคนช่อดอก แต่ละใบกางออกเป็นมุมฉากกับลำต้น ช่อดอกมีดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมากอัดกันแน่นเป็นแท่งทรงกระบอกสีเหลืองหรือขาวอมเหลือง ออกดอกเกือบทั้งปี

          ผล เป็นผลแห้ง แตกได้ ภายในมีเมล็ด

          ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ปักชำ เจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีความชื้นแฉะ 

         ประโยชน์ทางยา : ต้น รสเผ็ดคาว แก้โรคระบบทางเดินหายใจ กามโรค น้ำเหลืองเสีย ฆ่าเชื้อโรคระบบทางเดินปัสสาวะ โรคบิด แก้บวมน้ำ ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ ทอนซิลอักเสบ ไตอักเสบลำไส้อักเสบ เต้านมอักเสบ,ใบ รสเผ็ดคาว ทำให้น้ำเหลืองแห้ง แผลแห้ง โรคผิวหนังทุกชนิด ริดสีดวงทวาร ฝีอักเสบ ไขข้อ หัด แก้พิษงู แมลงกัดต่อย ,ดอก แก้โรคตา ,ราก รสคาวจืด ขับปัสสาวะ แก้เลือด ขับลม ,ทั้งต้น ใบ ดอก ผล ราก นำมาปรุง แก้โรคเรื้อน มะเร็ง คุดทะราด และโรคที่เกิดตามผิวหนัง 

 

 

        วิธีและปริมาณที่ใช้

        - แก้โรคหนองใน ขับปัสสาวะ ระดูขาว ใช้ต้นสด 20-30 กรัม ล้างให้สะอาด นำไปต้มในน้ำ 1 ลิตร เคี่ยวให้เหลือครึ่งหนึ่ง กรองเอาน้ำดื่ม เช้า-เย็น ส่วนกากที่เหลือนำมาพอกหัวริดสีดวงได้ โดยใช้เวลา 5-7 วัน ริดสีดวงจะยุบ

        - แก้โรคผิวหนัง ผื่นคันบริเวณอวัยวะเพศ หรือฝีที่ก้น ใช้ต้นสด 20-30 กรัม ล้างให้สะอาดต้มเอาน้ำชะล้าง เช้า-เย็น เป็นประจำ จะทำให้แผลแห้งเร็วและไม่คัน หรืออาจจะใช้ใบสด 15-20 ใบ นำมาโขลกให้ละเอียด ทาและพอกบริเวณที่เป็นโรคผิวหนัง

         ที่มาข้อมูล : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี , สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี