ข่าว

"เบส-อรพิมพ์"น้ำตาคลอเปิดใจขอโทษคนอีสาน

"เบส-อรพิมพ์"น้ำตาคลอเปิดใจขอโทษคนอีสาน

18 พ.ย. 2559

‘เบส-อรพิมพ์’ เปิดใจขอโทษคนอีสาน เผยคลิปที่เห็นเป็นเพียงบางส่วนที่ถูกตัดเป็นก้อน ๆ ยืนยันมีเจตนาพูดเพื่อปลุกใจให้คนกลับมาคิดถึงสิ่งที่ลืมไป

     เมื่อเวลา 18.30น. วันที่ 18 พฤศจิกายน  น.ส.อรพิมพ์ รักษาผล หรือ เบส นักพูดสาวให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ถามตรงๆ ทางช่องไทยรัฐ ระบุถึงคลิปที่พาดพิงคนภาคอีสานว่า คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่จังหวัดมหาสารคาม เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2559 ตอนนั้นได้รับความไว้วางใจพูดเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจ และปิดท้ายด้วยเรื่องของพระงอค์ท่าน ผู้ใหญ่เห็นว่าน่าจะพูดเรื่องการสร้างจิตสำนึกพลเมืองได้ จึงได้ไปงานของกองรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งไม่ใช่แค่ที่เดียว ไปหลายจังหวัด หลายภาค แล้ววิธีการสื่อสารของแต่ละภาคก็จะเป็นแบบนั้น จะเรียกคนภาคนั้นเป็นแบบนั้น เช่นคนภาคอีสาน คนภาคใต้ คนภาคเหนือ คนกรุงเทพฯ แต่กลุ่มก้อนของการพูดทั้งหมดจะเป็นกลุ่มก้อนของการรู้หน้าที่พลเมืองและการพูดเรื่องรักสถาบัน ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ซึ่งต้องยอมรับว่าในพื้นที่ที่เราไปอาจจะมีการเข้าใจผิดบ้าง หรือน้องๆ ไม่ได้รับข้อมูล หรือไม่ไดด้รู้เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจบ้าง

     น.ส.อรพิพม์ กล่าวว่า วิธีการสื่อสารขอถ้าเป็นผู้ใหญ่จะสื่อสารอีกแบบ แต่วิธีการสื่อสารกับเด็กจะใช้ภาษาเป็นกันเอง ภาษาแบบวัยรุ่นแบบเด็ก ถ้าผู้ใหญ่ฟังอาจจะสงสัยว่าทำไมเป็นภาษาง่ายๆ แต่จะพยายามสื่อสารกับเด็ก ซึ่งวันนั้นคนฟังเป็นเยาวชนระดับมหาวิทยาลัย ที่รับฟังเกี่ยวกับหน้าที่พลเมือง เป้าหมายของงานอยากให้น้องๆ รู้หน้าที่ของการเป็นพลเมือง รักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์เพื่อให้เดินหน้าประเทศไทยต่อไป

     นักพูดสาว กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องการสื่อ ถ้าฟังทั้งหมด 1 ชั่วโมง 30 นาทีของการบรรยายจะเข้าใจ แต่ถ้าตัดออกเป็นก้อนๆ ตอนๆ ส่วนๆ ท่านจะไม่เข้าใจบริบทก่อนหน้าและหลังจากนั้นคืออะไร ก่อนหน้านี้โยงเรื่องพลเมือง จากนั้นโยงให้ทุกคนรักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ กลุ่มก้อนตรงกลางเป็นการปลุกใจในภาษาของตน ให้ฮึกเหิมให้หวนกลับมาคิดถึงสิ่งที่ลืมไป ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการล่วงเกินหรือหยามหมิ่นเพราะถ้าเป็นภาคอื่นจะพูดแบบนี้

   อย่างไรก็ตามถ้าดูทั้งหมดจะเข้าใจมากขึ้น แต่ถ้าดูแค่กลุ่มก้อนนั้น ส่วนตัวเองฟังแล้วก็เข้าใจว่ามันดูดุร้าย ดูเข้าใจยากได้จริง จึงอยากให้ทุกคนฟังทั้งหมดแล้วจะเข้าใจเจตนาที่จะให้ทุกคนหันกลับมามองสิ่งที่เราละเลยโดยเฉพาะเด็กๆ

     “เบสอยากจะบอกว่าทุกที่ที่ไปเน้นแบบนี้หมดไม่ใช่แค่ภาคใดแต่ทุกที่มีคนที่เข้าใจถูกเข้าใจผิดหมด เพราะฉะนั้นทุกที่ที่มีการบรรยาย ถ้าจะบรรยายราบเรียบจะไม่ครอบคลุมบางส่วนที่อาจจะได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อน เพราะฉะนั้นทุกที่ที่ไปจะหาข้อมูลก่อนว่าเราสมควรจะพูดอย่างไรให้กลุ่มคนตรงนั้น จึงมีการหาข้อมูลแล้วว่าภาคต่างๆทีไปจะเน้นเรื่องอะไรอย่างไร  เพราะทุกๆที่ที่ไปเบสก็พูดอย่างนี้ แต่คลิปที่ออกมาเป็นของภาคอีสานก็แค่นั้นเอง แต่เบสยืนยันว่าไม่ได้มีความหมายที่จะล่วงเกินแม้แต่นิดเดียว”

     น.ส.อรพิมพ์ กล่าวอีกว่า ประโยควันนั้นต้องการสื่อว่า วันนี้น่าจะหันกลับมาศึกษาเรียนรู้ มองภาพรวมของประเทศชาติบ้านเมือง อยากให้หันกลับมามองความเหน็ดเหนื่อยของสถาบันกษัตริย์ อยากให้หันกลับมามองการเดินหน้าของประเทศไทยที่จะเดินต่อไปได้ถ้าทุกคนหันมามองสิ่งที่มีความหมายร่วมกัน สิ่งที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิดตใจ  ถึงเวลาที่เราจะมามองสิ่งเดียวกันและรักสามัคคีกัน ไม่แตกแยก

     “เบสอยากขอโทษ ไม่ได้ขอโทษเพื่อให้เรื่องจบ แต่ขอโทษจากหัวใจจริงๆ เบสทำงานด้านนี้มา 10 กว่าปี เพราะอย่างเดียวคือวันหนึ่งเบสอยากจะมีส่วนในการใช้เสียงของเบสในการช่วยสร้างสิ่งดีๆ ในประเทศชาติ วันนี้คำพูดตอนหนึ่งที่ถูกตัดออกมามันกลายเป็นการจุดชนวนบางอย่างของความแตกแยก จึงอยากขอโทษที่คำพูดของเบสไปทำให้พี่น้องชาวอีสานรู้สึกไม่ดี  เบสไม่มีทางที่จะคิดกับพี่น้องคนอีสานไม่ดี อยากขอโทษด้วยใจจริง ให้อภัยหรือไม่ให้อภัยก็ไม่เป็นไร แต่เบสไม่อยากให้สิ่งที่พูดออกมาจากความตั้งใจในการทำงานจุดชนวนให้เราไม่รักกันหรือแตกแยกกัน หรือมาทะเลาะกันในประเด็นที่เปราะบางมาก เบสไม่โทษใครเลยมันเป็นเพราะสิ่งที่เบสพูดไป ถ้าท่านได้ฟังทั้งหมดจะเข้าใจ ว่าเบสไม่มีเจตนาที่ไม่ดีเลยกับพี่น้องคนอีสาน” เบส กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ