
“บิ๊กป้อม” ไม่ตำหนิ จนท.เหตุบึ้มภาคใต้
“ประวิตร” ไม่ตำหนิ จนท.เหตุบึ้มภาคใต้ ชี้ผู้ก่อเหตุพยายามสร้างความเชื่อมั่นว่าสามารถก่อเหตุได้ ยันการพูดคุยสันติสุขไทย-มาเลย์ มีความก้าวหน้า
18 พ.ย.59 - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการนโยบาย และอำนวยการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ (นพช.) ครั้งที่ 1/2559 ว่าการประชุมวันนี้ เป็นการพูดคุยถึงการจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อความมั่นคงในอนาคต ไม่ได้มีการพูดคุยถึงปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้
เมื่อถามถึงสถานการณ์วางเหตุการณ์วางระเบิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทางด้านการข่าวทราบมาก่อน ไม่ขอตำหนิเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ แต่จากนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากกว่านี้ เพราะผู้ก่อเหตุพยายามสร้างความเชื่อมั่นว่าสามารถก่อเหตุได้ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแตนภาคใต้ (ศชต.) ต้องช่วยกันมากขึ้น โดยเฉพาะต้องอาศัยความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ในการชี้เบาะแสให้มากขึ้น ถ้าหากเทียบกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ถือว่าน้อยลง แต่เราไม่อยากให้เกิด โดยเหตุการณ์ในช่วงที่ผ่านมากลุ่มผู้ก่อเหตุมุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งทั้งทหารพรานและเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ร่วมกันในการแก้ไขปัญหา
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ในการประชุมกับทางการมาเลเซียก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกันถึงการรักษาความสงบร่วมกัน เพราะเขาเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสันติสุขว่าจะดำเนินการพูดคุยอย่างไรภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) ไทย-มาเลเซีย ที่จะเป็นผู้ลงรายละเอียดในเรื่องนี้ รวมถึงพูดคุยถึงการแก้ปัญหาบุคคลสองสัญชาติ ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันให้เป็นรูปธรรมว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้เราได้ส่งรายชื่อให้ทางการมาเลเซียตรวจสอบแล้ว ถือเป็นความร่วมมือที่มีความก้าวหน้ามาก และหลังจากนี้ปัญหาเรื่องผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และรั้วชายแดนจะเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น
เมื่อถามว่าการสร้างรั้วชายแดนจะมีรูปธรรม และมีการก่อสร้างเมื่อใด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องให้ทั้งสองประเทศตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพูดคุยเพื่อกำหนดรูปแบบ รายละเอียด การกำหนดคนที่จะออกงบประมาณก่อน รวมถึงจะสร้างตรงไหนอย่างไร เพราะไม่ได้สร้างรั้วตลอดแนว แต่จะสร้างเฉพาะจุดที่ไม่สามารถลาดตะเวนไปถึงได้ นอกจากนี้ในการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ไม่มีการพูดคุยถึงนโยบายการต่างประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา โดยประเทศไทยไม่ต้องเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ คงต้องรอให้เขาประกาศนโยบายออกมาก่อน.



