
รวบหนุ่มออสซี่ หน.แก๊งเรียกค่าไถ่
รวบหนุ่มใหญ่ชาวออสซี่ หัวหน้าแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่ หนีซุกโรงแรมย่านสุขุมวิท เจ้าตัวอ้างไม่รู้ว่ามีหมายจับ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รรท.ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.อนรรฆ ประสงค์สุข รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ชัย สงวนสิน รอง ผกก.ฝ.ความร่วมมือระหว่างประเทศ พ.ต.ท.มนต์ชัย วงษ์ชาตรี สว.กก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธวัชชัย นรินรัตน์ สว.กก.1 บก.สส.สตม. สนธิกำลังตำรวจสากล ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าจับกุม นาย เกย์ดู เจมส์ เอทลิตี้ GUIDO JAMES EGLITI อายุ 69 ปี สัญชาติออสเตรเลีย โดยจับกุมได้ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท
พ.ต.ท.อนรรฆ เปิดเผย การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้รับข้อมูลว่ามีนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียได้เข้ามาพักอาศัยในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท มีท่าทีต้องสงสัย จึงได้ประสานข้อมูลไปยังกองการต่างประเทศให้ตรวจสอบประวัติชาวต่างชาติรายนี้ ซึ่งพบว่านักท่องเที่ยวดังกล่าวได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยทางเครื่องบินจากเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา มาลงที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า นายเจมส์ มีหมายจับอินเตอร์โพล และเป็นบุคคลที่ทางการประเทศออสเตรเลียต้องการตัวมากที่สุด จึงรายงาน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รรท รอง ผบ.ตร.ให้ทราบ ก่อนลงนามในคำสั่งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพิกถอนการอยู่ต่อในราชอาณาจักรไทยตามขั้นตอน ก่อนนำกำลังตำรวจ กก.2 บก.ป. ตำรวจกองการต่างประเทศ และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าจับกุมผู้ต้องหาขณะอยู่ในล็อบบี้ในโรงแรมดังกล่าว จากนั้นได้เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 1621 ชั้น 16 ซึ่งเป็นห้องพักของผู้ต้องหา จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใด จึงคุมตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม
พ.ต.ท.ชัย กล่าวว่า นายเจมส์ได้ร่วมกับพวกก่อเหตุลักพาตัวอุ้มนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี ไปกักขังหน่วงเหนี่ยวที่บ้านพักในเมือง แอนเนอร์เล่ย์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ก่อนทำการกรรโชกทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2552 ต่อมาผู้เสียหายนี้ได้หลบหนีออกมาได้ และได้แจ้งความดำเนินคดี ก่อนที่นายเจมส์และพวกจะถูกจับกุมและยื่นคำร้องขอประกันตัวและได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และได้หลบหนีออกมาจากประเทศออสเตรเลียมากบดานที่ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ระหว่างที่อยู่ที่ประเทศกัมพูชานายเจมส์ได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอีกและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศกัมพูชาจับกุมตัว ก่อนได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมาและหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย นอกจากนี้ยังพบว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีของผู้ต้องหารายนี้ ประมาณ 5 หมื่นบาท โดยมีปลายทางมาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
รายงานข่าวแจ้งว่า นายเจมส์ถือเป็นหัวหน้าขบวนการอุ้มเรียกค่าไถ่ โดยพฤติการณ์จะร่วมกับพวก อ้างตัวเป็นตำรวจ ก่อเหตุอุ้มผู้เสียหายที่มีหมายจับคดีเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และได้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งจากข้อมูลทราบว่าผู้ร่วมขบวนการถูกดำเนินคดีทั้งหมด เหลือเพียงนายเจมส์เพียงคนเดียว
จากการสอบปากคำนายเจมส์ ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่า ได้ถูกทางการประเทศออสเตรเลียดำเนินคดีแล้ว พอพ้นโทษก็เดินทางไปเที่ยวกับเพื่อนที่ประเทศกัมพูชา และได้ก่อเหตุในลักษณะเดิมอีกครั้งจนถูกดำเนินคดี ติดคุกเป็นเวลา 1 ปี ทั้งนี้หลังจากพ้นโทษก็ได้เดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยว โดยไม่ทราบมาก่อนว่าตนเองมีหมายจับที่ประเทศออสเตรเลียติดค้างอยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อหาลักพาตัว หน่วงเหนี่ยวกักขังและโจรกรรม ตามหมายจับอินเตอร์โพล ก่อนประสานทางการประเทศออสเตรเลีย เพื่อทำการผลักดันออกนอกประเทศ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป