ข่าว

โลกร้อน ลวงโลก ในอุ้งมือทรัมป์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เมื่อสหรัฐอเมริกากำลังจะอยู่ภายใต้ผู้นำคนใหม่ที่ไม่เชื่อว่าโลกจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อยับยั้งสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

 

            สหรัฐอเมริกาได้ประธานาธิบดีคนใหม่ เป็นใครมาจากพรรคไหน มีแนวนโยบายอย่างไร ย่อมมีผลกระทบกว้างไกลต่อโลกทุกครั้งไป  แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่การมาถึงของคณะทำงานทำเนียบขาวชุดใหม่ จะทำให้อนาคตโลกใบนี้มีเดิมพันสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน  เพราะคนที่ระบบเลือกตั้งสหรัฐฯส่งขึ้นมาเป็นบุคคลทรงอิทธิพลที่สุดของโลก คือผู้ที่ปฏิเสธ ไคลเมต เชนจ์ หรือสภาพภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง จากน้ำมือมนุษย์       

 

   

 

            ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่เคยลงรายละเอียดของนโยบายสิ่งแวดล้อมในทางปฏิบัติ แต่จากการแสดงความผ่านทวิตเตอร์และการปราศรัยหลายครั้งก็พอจะเห็นภาพ  โดยเฉพาะทวิตบันลือโลกเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2555  ที่ทรัมป์ไปไกลถึงขั้นว่า นอกจากไม่จริงแล้ว แนวคิดเรื่องโลกร้อนยังเป็นเรื่องลวงโลกที่จีนกุขึ้นมาเพื่อลดความสามารถแข่งขันของสหรัฐ

            ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ยังสัญญาจะยกเลิกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่ออกมาในสมัยบารัก โอบามา ยุบสำนักงานคุ้มครองสภาพแวดล้อม (อีพีเอ ) หน่วยงานที่กำกับกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม และไคลเมต เชนจ์  จะพาสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงปารีสที่ 195 ประเทศลงนามเมื่อปีที่แล้ว ฟื้นฟูอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินที่กำลังโรยรา  เปิดพื้นที่ป่าคุ้มครองบางแห่งให้ตัดไม้ได้ และยุติการอุดหนุนพลังงานสะอาดทั้งหมด

             เอริช พีกา ประธาน เฟรนดส์ ออฟ ดิ เอิร์ธ สหรัฐ ออกปากว่า นี่เป็นแนวนโยบายต่อต้านสภาพแวดล้อมที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา       

       

 

         โลกร้อน ลวงโลก ในอุ้งมือทรัมป์

   

             ไมรอน อีเบลล์ ไม่รู้จักไม่ได้

           เมื่อเตรียมทีมรับการถ่ายโอนอำนาจ ว่าที่ผู้นำสหรัฐ ได้ตั้ง ไมรอน อีเบลล์ เป็นหัวหน้าทีมรับช่วงต่อจากอีพีเอ  บุคคลผู้นี้คือนักปฏิเสธไคลเมต เชนจ์ แถวหน้า  มักปรากฏตัวในสื่อและให้การต่อสภาคองเกรสในฐานะตัวแทนฝ่ายที่ยังกังขาการมีอยู่จริงของไคลเมต เชนจ์ จากน้ำมือมนุษย์

         หัวหอกใหม่ของอีพีเอในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป็นประธาน Cooler Heads Coalition แนวร่วมหลวมๆขององค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ประกาศตัวอยู่ตรงข้ามกับพวก”ตื่นกลัว”ไคลเมต เชนจ์   ภารกิจของกลุ่มตามที่ระบุบนเวบไซต์คือ มุ่งขจัด“มายาคติ”โลกร้อน ด้วยการตอบโต้จุดอ่อนรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยง วิทยาศาสตร์และเศรษฐกิจ

         อีเบลล์ ยอมรับว่า  หลายปีมานี้ โลกร้อนขึ้นนิดหน่อย แต่เป็นปรากฏการณ์ความแปรปรวนทางธรรมชาติปกติ และไม่ว่าจะเกิดจากน้ำมือมนุษย์หรือไม่ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล หรือต่อให้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องจริง อาจไม่ได้แย่เสมอไป เขาเขียนไว้ในบทความเรื่อง “รักโลกร้อน” เมื่อปี 2549 ว่า หากข้อสันนิษฐานโลกร้อนเป็นความจริง ก็น่าจะมีประโยชน์เหมือนกัน  เช่น พายุฤดูหนาวอาจลดความรุนแรงลง และหลายพื้นที่ของโลกจะน่าอยู่ยิ่งกว่าเดิมก็ได้ ทั้งกล่าวถึงการเข้าร่วมข้อตกลงปารีสของรัฐบาลโอบามาว่า ขัดรัฐธรรมนูญ 

โลกร้อน ลวงโลก ในอุ้งมือทรัมป์

 

        นิตยสาร วานิตี แฟร์ รายงานว่าสถาบัน Competitive Enterprise ที่อีเบลล์ทำงานอยู่  เคยได้รับงบสนับสนุนจากเอ็กซอนโมบิล  ยักษ์ใหญ่ในอุตสากรรมน้ำมัน ในช่วงปี 2541-2548 จำนวน 2 ล้านดอลลาร์ จากงบทั้งหมด 3.7 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังได้เงินสนับสนุนบางส่วนจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน แต่เขายืนยันว่า เงินบริจาคก็ส่วนบริจาค  ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำ

         ภารกิจหลักของอีเบลล์ อาจไม่ใช่การประสานงานรับช่วงต่อ แต่เป็นการเตรียมยุบอีพีเอ ตามที่ทรัมป์สัญญาว่าจะทำทันที่ที่รับตำแหน่ง

        อีพีเอ เป็นองค์กรที่อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน จากรีพับลิกัน ตั้งขึ้นในปี 2513 แต่นโยบายของพรรครีพับลิกัน ที่ได้รับการรับรองจากที่ประชุมใหญ่พรรคเมื่อเดือนกรกฎาคม 2559  เสนอให้ยุบอีพีเอแล้วเปลี่ยนมาเป็นคณะกรรมการอิสระไม่แบ่งฝ่าย คล้ายกับคณะกรรมการกำกับนิวเคลียร์

 

โลกร้อน ลวงโลก ในอุ้งมือทรัมป์

 

          แผนพลังงาน(ไม่)สะอาด

          ทรัมป์เตรียมยกเลิกแผนการพลังงานสะอาด ( Clean Power Plan ) ของประธานาธิบดีโอบามา ที่ถือเป็นเครื่องมือหลักในการบังคับให้รัฐต่างๆต้องควบคุมปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงไฟฟ้า โดยหากขาดกลไกนี้ จะเป็นไปไม่ได้เลยที่สหรัฐจะสามารถรักษาพันธกรณีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามข้อตกลงปารีส

          พรรครีพับลิกันที่กำลังจะคุมทั้งสองสภา  มีแผนจะยุบอำนาจในการจำกัดการปล่อยกาซคาร์บอนของอีพีเอ  แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดว่า แล้วจะมีระเบียบใดมาแทน จะจำกัดการปล่อยก๊าซโดยใช้กลไกอิงระบบตลาดมาช่วยหรือไม่ แจ้งแค่ว่า พรรคคัดค้านภาษีคาร์บอนทุกรูปแบบ  จะมุ่งใช้แนวทางอิงเทคโนโลยีที่เป็นกลาง ห้ามอุดหนุนเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่ควรมาจากทุนสนับสนุนของเอกชนอย่างเดียว สนับสนุนการพัฒนาพลังงานทุกรูปแบบ ที่สามารถซื้อขายได้ในตลาดเสรีโดยปราศจากการอุดหนุน รวมถึงน้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ พลังงานนิวเคลียร์และพลังงานน้ำ

          รีพับลิกัน กล่าวหารัฐบาลเดโมแครตภายใต้ประธานาธิบดีโอบามาว่า มีวาระต่อต้านถ่านหินแบบสุดโต่ง พรรคเดโมแครตไม่เข้าใจว่า ถ่านหินเป็นทรัพยากรพลังงานในประเทศที่พึ่งพาได้ ไม่แพง สะอาดและมีอยู่อย่างดาษดื่น ทิศทางด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศในช่วงที่ผ่านมา สนองตอบพวกชนชั้นนำที่ตั้งอยู่บนกลยุทธสร้างความหวาดกลัว วิทยาศาสตร์คุณภาพต่ำ และการออกระเบียบแบบรวมศูนย์ควบคุมและสั่งการ

 

โลกร้อน ลวงโลก ในอุ้งมือทรัมป์

 

        ไม่ร่วมกระบวนการยูเอ็น 

         ทรัมป์สัญญาหลายครั้งว่า จะพาสหรัฐออกจากข้อตกลงที่ทั่วโลกเห็นพ้องลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในกรุงปารีสเมื่อปีที่แล้ว และประธานาธิบดีบารัก โอบามา  ลงนามเป็นกฎหมายแล้ว  คำสัญญาของทรัมป์ก็อยู่ในแนวนโยบายของรีพับลิกัน แต่พรรคไปไกลกว่ านั้นอีกเมื่อเรียกร้องให้สหรัฐยุติการสนับสนุนงบประมาณให้กับกรอบการทำงานอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยไคลเมต เชนจ์ (UNFCCC) ที่จะจัดการประชุมสุดยอดว่าด้วยเรื่องนี้และติดตามความก้าวหน้าของแต่ละประเทศเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ยังเสนอให้ห้ามใช้ผลการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ที่มาจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยไคลเมตเชนต์ มาใช้เป็นเหตุผลสำหรับการออกกฎหมายอีกด้วย

          อย่างไรก็ดี เนื่องจากรัฐบาลประธานาธิบดีโอบามาให้สัตยาบันอย่างรวดเร็ว เลยเป็นเรื่องยากที่ทรัมป์จะพาสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงได้ง่ายในเชิงกฎหมาย กระนั้น เนื่องจากไม่มีบทลงโทษการไม่ปฏิบัติตาม การเพิกเฉยข้อตกลง ก็ทำได้เช่นกัน หากไม่สนใจว่าสหรัฐจะมีสถานะอย่างไรในสายตาชาวโลก และจะมีผลพัวพันอย่างไรกับการดำเนินความสัมพันธ์กับผู้นำต่างประเทศที่ต่างก็เห็นดีกับข้อตกลงนี้

โลกร้อน ลวงโลก ในอุ้งมือทรัมป์

 

         ขุดเจาะน้ำมัน-เปิดป่าคุ้มครอง        

          พรรครีพับลิกัน ต้องการให้ยกเลิกกฎระเบียบคุ้มครองธรรมชาติภายใต้การกำกับอีพีเอ หรือถ่ายโอนอำนาจให้แต่ละรัฐไปจัดการเอง  ควรลดขอบข่ายกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชใกล้สูญพันธุ์  เพื่อไม่ขึ้นบัญชีใกล้สูญพันธุ์กับสัตว์บางชนิดที่อาจมีอยู่เป็นจำนวนมากในบางแหล่ง  เพราะกฎหมายข้อนี้ สกัดกั้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ทำให้โครงการก่อสร้างต่างๆต้องชะงัก และเป็นภาระกับเจ้าของที่ดิน  พื้นที่ป่า 200 ล้านเอเคอร์ที่เคยได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลกลาง ควรนำมาใช้สร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจแก่ประเทศอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำไม้สัก

          ส่วนที่ดินสาธารณะควรเปิดให้กับการสำรวจน้ำมันและก๊าซ รวมถึงที่ดินในไหล่ทวีปรอบนอกของอเมริกา ควรเร่งให้เกิดการสำรวจดังกล่าว และดึงแร่ธาตุขึ้นมาใช้ 

 

 

โลกร้อน ลวงโลก ในอุ้งมือทรัมป์

( ซาราห์ เพ-ลิน ) 

 

          ในโผดรีมทีมด้านพลังงานของทรัมป์ ก็น่าสนใจว่า มีชื่อของ ฮาโรลด์ ฮัมม์ มหาเศรษฐี และลอบบี้ยิสต์แถวหน้าของอุตสาหกรรมน้ำมัน ที่อาจมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีพลังงาน ส่วนอดีตผู้สมัครชิงรองประธานาธิบดีอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว ซาราห์ เพ-ลิน อาจมานั่งรัฐมนตรีมหาดไทย หน่วยงานที่จะดูแลเรื่องที่ดินสาธารณะ อันรวมถึงสมบัติชาติ อาทิ อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน และอุทยานแห่งชาติ โยซิมิตี  ช่างสอดคล้องกับนโยบายที่กล่าวมา  เนื่องจากเพ-ลิน อยู่ฝ่ายสนับสนุนขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ครั้งหนึ่งเธอกล่าวว่า เชื้อเพลิงฟอสซิล เป็นสิ่งที่พระเจ้าได้ทิ้งลงมาเป็นส่วนหนึ่งของโลกเพื่อให้มนุษย์ใช้สอย 

 ( ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 )

โลกร้อน ลวงโลก ในอุ้งมือทรัมป์

        

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ