สับปะรดพันธุ์ภูเก็ตแท้ลูกละ1,543บาท | คมชัดลึก

               11 พ.ย. 59  เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ร้านตู้กับข้าว ถ.พังงา อ.เมือง จ.ภูเก็ต  นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายชาลี สิตบุศย์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต นายวีระชัย ปรานวีระไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีภูเก็ต จำกัด และนายวิชัย แซ่ตัน หัวหน้ากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดภูเก็ต แถลงข่าว เปิดตัวโครงการ “สับปะรดภูเก็ต” แคมเปญ “อ่องหลาย โป๊ปี่เป่งอ๊าน” โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชนและสื่อมวลชนเข้าร่วมจำนวนมาก

 

 

               นายวีระชัย ปรานวีระไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า จากความพิเศษของรสชาติสับปะรดภูเก็ตแท้ที่มีความหวานนำแต่อมเปรี้ยวนิดๆ ชุ่มคอชื่นใจ มีดีที่น้ำตาลน้อย แต่อุดมไปด้วยวิตามินซี และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และเนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่ปลูก ดังนั้นเพื่อเป็นการจุดประกายให้เกษตรกรหันมาอนุรักษ์สับปะรดพันธุ์ภูเก็ตแท้ ซึ่งเหลือพื้นที่ปลูกเพียง 2,200 ไร่ ให้คงอยู่ต่อไป โดยน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวในการพัฒนา รวมทั้งเพื่อสร้างกระแสและประชาสัมพันธ์ประโยชน์ จุดเด่น และคุณค่าทางโภชนาการของสับปะรดภูเก็ตที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงได้มีการจัดทำโครงการ “สับปะรดภูเก็ต” แคมเปญ “อ่องหลาย โป๊ปี่เป่งอ๊าน” ด้วยการเปิดให้จองสับปะรดภูเก็ต จำนวน 100 ลูก ในราคาลูกละ 1,543 บาท ให้แก่บุคคลทั่วไป ในวันที่ 11 พฤศจิกายน นี้ และกำหนดส่งมอบก่อนวันตรุษจีน ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2560

 

 

               “หลังจากเปิดให้มีการจอง ปรากฏว่าได้รับการสนับสนุนจากชาวภูเก็ตเป็นอย่างดี และมีผู้สนใจจองหมดภายในเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งสับปะรด 100 ลูกดังกล่าวนั้น เป็นสับปะรดที่ได้รับคัดสรรจากผลผลิตที่มีอยู่ประมาณ 7 ล้านลูก ซึ่งจะมีกระบวนการในการดูแลเป็นอย่างดี ตั้งแต่การเลือกแปลงปลูก ตลอดจนการดูแลรักษาจนถึงมือผู้บริโภค โดยทุกลูกจะมีหมายเลขกำกับและใบรับรองคุณภาพจากกรมวิชาการเกษตร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตจะเป็นผู้ลงนามรับรอง มีเหรียญการันตีและใส่กล่องอย่างดี เหมาะเป็นของฝากสำหรับผู้ใหญ่อย่างยิ่ง”

               นายวีระชัย กล่าวด้วยว่า นอกจากโครงการดังกล่าวแล้ว ทางบริษัทฯ เตรียมจัดเทศกาล “กุมภา เจ้าถิ่น พากิน สับปะรดภูเก็ต 2017” หรือ “Phuket Pineapple Festival 2017” โดยมีป้าอ่องหลาย เป็น Mascot แนะนำเมนูเด่นสุดยอดอาหารคาวหวานตามร้านอาหารและโรงแรมต่างๆ ในภูเก็ต และ Mascot เด็กชายยานัด พาชิมหลากเมนูของหวานและเครื่องดื่มจากสับปะรดภูเก็ต และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

               ขณะที่นายวิชัย แซ่ตัน หัวหน้ากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดภูเก็ต กล่าวว่า ในการคัดเลือกสับปะรดจำนวน 100 ลูก นั้น ลำดับแรกจากคัดเลือกพื้นที่ปลูกซึ่งมีอยู่ 2,219 ไร่ ให้เหลือพื้นที่เพียง 4 แปลงๆ 2 ไร่ ซึ่งจะมีผลผลิตประมาณ 24,000 ลูก และจะคัดให้เหลือ 100 ลูก หรือให้ได้แปลงละ 25 ลูก โดยจะใช้ระยะเวลาในการปลูกจนเก็บเกี่ยวประมาณ 125 วัน ในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ดีที่สุดของการเก็บเกี่ยวผลผลิต และสามารถที่จะส่งมอบให้กับผู้จองได้

 

 

               ทางด้านนายชาลี สิตบุศย์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ สำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ความพิเศษและโดดเด่นของสับปะรดภูเก็ตคือ รสชาติที่มีความหวานอมเปรี้ยวนิดนิดๆ ชุ่มคอ มีน้ำตาลน้อย แต่อุดมไปด้วยวิตามินซี และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เมื่อแก่จัดจะมีกลิ่นหอมอโรม่าอ่อนๆ คล้ายกับเบอร์รีป่า เป็นเอกลักษณ์ไม่ฉุนคล้ายแอลกอฮอล์เหมือนสับปะรดทั่วไป ช่วยเพิ่มอรรถรสเมื่อนำไปประกอบอาหารทั้งคาวและหวานตามภูมิปัญญาคนภูเก็ตโบราณ รสสัมผัสเมื่อเคี้ยวจะมีความกรอบและเนื้อมีเส้นใยน้อย ไม่ฉ่ำน้ำ อันเนื่องมาจากแร่ธาตุในดิน หรือลักษณะทางภูมิศาสตร์  จึงทำให้สับปะรดภูเก็ตมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง นอกจากนี้ยังจะมีการรับรองคุณภาพและตรวจสอบตั้งแต่การเตรียมพื้นที่ในการปลูก การปลูก การดูแลรักษา จนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต ทั้งในเรื่องของ GAP , GI และได้รับการรับรองเป็นภูเก็ตแบรนด์ ในอนาคตจะมีการติดป้ายที่แสดงสัญลักษณ์ความเป็นสับปะรดภูเก็ตแท้ รวมทั้งจะมีการจัดตั้งร้าน Q-Shop ในภูเก็ตที่จำหน่ายสับปะรดภูเก็ต เพื่อให้คนทั่วไปสามารถหารับประทานได้ง่ายขึ้น และยังมีสินค้าเกษตรอื่นๆ ของภูเก็ตด้วย โดยปัจจุบัน ภูเก็ตมีพื้นที่ปลูกสับปะรดประมาณ 2,219 ไร่ เท่านั้น มีผลผลิตปีละประมาณ 7 ล้านลูก โดยจะปลูกแซมในสวนยางพารา เพราะภูเก็ตมีพื้นที่น้อย มีมูลค่าทางการตลาดอยู่ที่ 115 ล้านบาทต่อปี และหลังจากที่ทางบริษัทประชารัฐรักสามัคคีภูเก็ตฯ ได้เข้ามาส่งเสริมด้านการตลาด คาดว่าจะเพิ่มมูลค่าทางการตลาดอีก 25%

 

 

               ส่วนของนายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยภูเก็ตมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่การปลูกสับปะรด ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 2,000 ไร่เศษ คงไม่สามารถที่จะเพิ่มพื้นที่ปลูกได้อีก ซึ่งวิธีการส่งเสริมคือ ทำอย่างไรกับผลผลิตที่มีจำกัดให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เราไม่ต้องการขายของจำนวนมากแต่มีกำไรน้อย แต่เราต้องการขายของน้อยให้มีกำไรมากๆ ซึ่งในอนาคตอันใกล้เราจะมีการจัดตั้งจุดจำหน่ายสับปะรดภูเก็ตแท้ๆ ในรูปแบบของ Q-shop บริเวณเส้นทางไปสนามบินภูเก็ต ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหาสถานที่ รวมทั้งจะพัฒนาไปสู่ Q RESTAURANT ร้านอาหารที่นำสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพมาปรุงเป็นเมนูต่างๆ

               “สับปะรดภูเก็ต 100 ลูก ที่มีการจำหน่ายในราคาลูกละ 1,543 บาท นั้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สับปะรดภูเก็ตให้รู้จักในวงกว้างมากขึ้น เปรียบได้กับนางงามที่ผ่านการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี และสวยที่สุดจากจำนวน 7 ล้านลูก แต่ในส่วนที่เหลืออาจจะไม่ใช่ลูกที่สวยที่สุด แต่ก็สวย มีคุณภาพและอร่อยเช่นเดียวกัน หากเป็นไปได้ก็จะอยากเห็นการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปเป็นเมนูข้าวอบสับปะรดโดยใช้ข้าวที่ดีที่สุดจากจังหวัดมหาสารคาม หรือเพิ่มมูลค่าขึ้นไปอีกเป็นข้าวอบสับปะรดผสมล็อบเตอร์ ซึ่งจะต้องมาทานที่ภูเก็ตเท่านั้น เพราะวัตถุดิบเรามีจำกัดคงไม่สามารถส่งออกได้ก็จะเป็นการต่อยอดในเรื่องของการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง และต้องบอกว่าต่อไปนี้ใครที่มาภูเก็ตแล้วต้องหาทานสับปะรดภูเก็ตแท้ และใครที่จะบอกแค่ว่าชอบทานสับปะรดคงไม่พอ แต่ต้องรักด้วย รวมทั้งจะบอกด้วยว่า ถ้าใครไม่ได้ทานสับปะรดภูเก็ตแท้ก็ถือว่าเสียชาติเกิด เพราะในอนาคตเราก็จะมีจุดสำหรับการจำหน่ายสับปะรดภูเก็ตแท้”