
เพื่อนสนิทผู้นำเกาหลีใต้โผล่ให้ปากคำคดีฉาว
สตรีผู้เป็นศูนย์กลางเรื่องอื้อฉาวสั่นคลอนประธานาธิบดีหญิงเกาหลีใต้ ให้ปากคำอัยการแล้ว
นางชอย ซุน-ชิล คนสนิทของประธานาธิบดีปัก กึน-เฮ เดินทางเข้าให้ปากคำที่สำนักงานอัยการในกรุงโซล เมื่อวันจันทร์ ( 31 ต.ค.) ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนและม็อบที่อยู่ในอารมณ์โกรธแค้น เธอใช้มือปิดบังใบหน้าก่อนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตานองหน้าว่า ดิฉันเสียใจ ได้โปรดอภัย ก่อนเข้าไปในอาคาร ขณะโคเรีย ไทมส์อ้างคำพูดของเธอด้วยว่า ดิฉันก่อความผิดร้ายแรงที่มีโทษถึงตาย
ทนายของเธอยืนยันว่า นางชอยวัย 60 ปี จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ในคดีที่ถูกกล่าวหาเข้าถึงเอกสารลับทางการ ก้าวก่ายกิจการของรัฐ โดยที่ไม่ได้มีตำแหน่งในรัฐบาล และใช้สายสัมพันธ์กับประธานาธิบดี ระดมเงินบริจาคมหาศาลเข้ามูลนิธิสองแห่งด้านวัฒนธรรมและกีฬาที่เธอตั้งขึ้น และนำเงินบางส่วนไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน
การสอบสวนมีขึ้นหลังสื่อเกาหลีใต้เปิดเผยว่า นางชอยเป็นคนที่คอยปรับแก้ร่างสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีหลายครั้ง และได้รับรายงานที่ส่งถึงประธานาธิบดีเป็นประจำ รวมถึงเอกสารชั้นความลับ โดยสถานีโทรทัศน์ เจทีบีซี พบร่างสุนทรพจน์และเอกสารลับอื่นๆของประธานาธิบดีในคอมพิวเตอร์ที่ถูกทิ้งแล้วที่สำนักงานของนางชอย
นางชอยกลับถึงเกาหลีใต้ตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์หลังซ่อนตัวในเยอรมนี 2 เดือน แต่กลับไม่ได้ถูกจับกุมทันที ทำให้เกิดข้อกังขาใหม่ว่า เธออาจได้รับเวลาให้ทำลายหลักฐาน
ประธานาธิบดีปักแถลงขอโทษต่อประชาชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่ 25 ต.ค. และการยอมรับว่าให้คนสนิทที่ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ ก้าวก่ายงานรัฐบาล จุดชนวนไม่พอใจอย่างกว้างขวาง ประชาชนเรือนหมื่นชุมนุมในกรุงโซลเมื่อค่ำวันเสาร์ และนักศึกษาครูอาจารย์จากหลายสถาบันเรียกร้องให้ลาออกหรือถอดถอน
นางชอยเป็นลูกสาวของอดีตที่ปรึกษาของประธานาธิบดีปัก เธอถูกสื่อเรียกว่า "ประธานาธิบดีเงา" และยังเปรียบเทียบเป็น“รัสปูตินหญิง” ซึ่งหมายถึง รัสปูติน ผู้เป็นที่ปรึกษาพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซียและมีส่วนทำลายราชวงศ์โรมานอฟ