10ขวบป่วยโรคลมชักกินแต่นมข้าว-น้ำไม่กิน | คมชัดลึก

วันนี้ (17 ส.ค.52) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเด็กหญิงวัย 10 ขวบมีอาการผิดปกติไม่เหมือนเด็กทั่วไป จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 115 ม.3 บ้านหนองพลวง ต.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ โดยได้พบกับ นางพร ร่วมสุข อายุ 46 ปี กำลังอุ้ม ด.ญ.วิยะดา หรือน้องแจง ร่วมสุข บุตรสาววัย 10 ขวบ ที่กำลังร้องไห้งอแงให้แม่ชงนมใส่ขวดให้กิน นางพร เล่าถึงชีวิตครอบครัวว่า สามีชื่อ นายกล่ำ ร่วมสุข อายุ 57 ปี มีลูก 3 คน 2 คนแรกเป็นชายไปทำงานที่ต่างจังหวัด หายไปนานและไม่กลับมาเยี่ยมบ้านเลย ส่วน ด.ญ.วิยะดา ซึ่งเป็นลูกคนเล็ก ตั้งแต่อายุ 7 เดือน เริ่มไม่ทานข้าวไม่ทานน้ำ ขนมก็ไม่ทาน โดยจะดื่มแต่นมอย่างเดียวจนปัจจุบัน อีกทั้งยังป่วยเป็นโรคลมชักมาแต่เด็ก และได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ โดยใช้บัตรทอง 30 บาท หมอตรวจและบอกว่ารักษาไม่หาย เพียงจ่ายยามาให้กิน และจะมีอาการชักแทบทุกวัน ทำให้น้องต้องกินยาทุกเช้า-เย็น นางพร เล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยไปทำงานเป็นแม่บ้านที่กรุงเทพฯ ได้เงินเดือนๆ ละ 6,000 บาท ต้องส่งมาให้ทางบ้านเดือนละ 4,000 บาท เพื่อมารักษาพ่อ คือ นายสะเล็น สำรวมจิต อายุ 70 ปี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก กินยาประจำ ส่วนแม่นางเอม สำรวมจิต อายุ 80 ปี ก็ป่วยเพราะชรามาก ส่วนสามีก็มีอาชีพรับจ้างทั่วไปได้วันละ 100-200 บาท บางวันก็ไม่มีงานทำ ส่วนค่านมลูกต้องกินนมผงคาร์เนชั่น ถุงละ 200 บาท ตก 2 วันต่อ 1 ถุง จนตนต้องลาออกจากงานมาดูแลลูกและพ่อแม่ โดยรับจ้างทำนาและงานทั่วไป บางครั้งเพราะต้องดูแลพ่อแม่และลูก “ทุกวันนี้ลำบากมากห้องส้วมก็ไม่มีพ่อแม่ ต้องไปอาศัยเพื่อนบ้าน เกรงใจเขา แต่มันจำเป็น ที่ผ่านมา นายอำเภอกระสัง พร้อม อบต.ลำดวน มาดูและรับปากว่าจะสร้างห้อง และห้องน้ำให้ชั้นล่างเพื่อไม่ต้องขึ้นชั้นบน แต่ทุกอย่างก็เงียบหายจนปัจจุบันแต่ก็ไม่รู้จะไปร้องที่ไหน”นางพร เล่าทั้งน้ำตา พร้อมระบุว่า ตนสงสารลูกเพราะชักทุกวัน ส่วนพ่อแม่ก็ล้มป่วยอายุก็มาก รายได้แทบไม่พอจุนเจือครอบครัว ทุกวันนี้มีเพื่อนบ้านสงสารเอาอาหารมาแบ่งให้ จึงอยากวิงวอนให้หมอช่วยรักษาลูกให้หาย เพราะลูกจะมีอาการเหม่อเหมือนเด็กที่มีปัญหาทางด้านระบบสมอง (ออทิสติก) ให้หาย สงสารลูกมาก แต่ก็หมดปัญญาจริงๆ ต่อมาผู้สื่อข่าว ได้โทรศัพท์ติดต่อ นายวีระเกียรติ รัมณีย์รัตนกุล นายอำเภอกระสัง และได้เล่าเรื่องให้ฟังนายอำเภอฟัง พร้อมระบุว่า ตนเพิ่งรู้เรื่องเพราะเพิ่งมารับตำแหน่งใหม่ และจะรีบลงไปดูว่าจะช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนการสร้างห้องและห้องส้วม เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวมีแต่เด็กและคนชรานั้น คงจะรีบดำเนินการก่อน ส่วนการช่วยเหลือจะประสานองค์กรท้องถิ่นให้รีบช่วยเหลือโดยด่วน