ข่าว

“หญิงวาดภาพ”เมืองกรุงเก่าปลาบปลื้มในหลวงพระราชทานบ้าน

“หญิงวาดภาพ”เมืองกรุงเก่าปลาบปลื้มในหลวงพระราชทานบ้าน

27 ต.ค. 2559

“หญิงวาดภาพขาย”เมืองกรุงเก่าเผยภาพในหลวงสร้างแรงบันดาลใจกราบทุกคืนจนถวายฎีกาสุดปลาบปลื้มในหลวงพระราชทานบ้านให้อยู่ ขอทำดีตลอดชีวิตยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง

 

          เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 27 ต.ค.59  ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 23/4 ม 3 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากทราบว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงมีพระเมตตาพระราชทานความช่วยเหลือพระราชทานบ้านให้กับนางเมตตา โรจนะประดิษฐ์ อายุ 53 ปี อาชีพวาดภาพขาย หลังจากที่นางเมตตาได้ทูลเกล้าถวายฎีกาขอความช่วยเหลือจากพระองค์

 

“หญิงวาดภาพ”เมืองกรุงเก่าปลาบปลื้มในหลวงพระราชทานบ้าน

 

          พบว่าบ้านหลังดังกล่าวปลูกอยู่ริมถนนเป็นทรงแบบโมเดิล ชั้นเดียว มีรั้วล้อมรอบ พื้นโดยรอบมีการเทคอนกรีตอย่างดี มีป้ายเขียนไว้หน้าบ้านว่าบ้านรวมน้ำใจ ซึ่งนางเมตตากำลังขะมักเขม้นกับการดูแลต้นไม้ที่ปลูกอยู่รอบบ้าน ภายในบ้านมีพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ติดอยู่ตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปจนรอบบ้าน

 

“หญิงวาดภาพ”เมืองกรุงเก่าปลาบปลื้มในหลวงพระราชทานบ้าน

 

          นางเมตตา เปิดเผยว่า เมื่อก่อนเคยปลูกบ้านอยู่ในที่ดินสาธารณะใน ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา นานกว่า 30 ปี ขณะที่นายณรงค์ โรจนะประดิษฐ์ อายุ 57 ปีซึ่งเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคมะเร็งหลังเข้ามาอยู่บ้านพระราชทานได้เพียง 2 อาทิตย์เท่านั้น นางเมตตาเปิดเผยว่า ตอนนั้นถูกขับไล่ที่ซึ่งปลูกที่สาธารณะ น้ำท่วมบ้าน และมีสภาพขัดสน มองไม่เห็นใครนอกจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนั่งดูพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระองค์ทุกวัน จนทูลเกล้าถวายฎีกา ซึ่งต่อมาทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เข้ามาช่วยเหลือจนได้ที่ดินของกรมธนารักษ์ และสร้างบ้านจนเข้ามาอยู่อาศัยได้เมื่อวันที่ 15 ก.พ.59 ซึ่งสามีก็เข้ามาอยู่ได้เพียงสองอาทิตย์ก็เสียชีวิต 

 

“หญิงวาดภาพ”เมืองกรุงเก่าปลาบปลื้มในหลวงพระราชทานบ้าน

 

          ปัจจุบันก็จะใช้เวลาอยู่กับบ้านวาดภาพลายไทยบนผืนผ้าเพื่อนำไปขายตามที่ต่างๆ เป็นรายได้มาจุนเจือเลี้ยงตนเอง รอบบ้านก็จะปลูกต้นไม้ประเภทสวนครัวที่สามารถนำไปประกอบอาหารได้ เช่นพริก สะระแหน่ กระเพา ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกสาวซึ่งปัจจุบันก็มีอาชีพค้าขาย แต่ก็สามารถอยู่ได้อย่างพอเพียง นางเมตตาเปิดเผยว่า ยึดแนวทางของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการดำเนินชีวิตและเศรษฐกิจพอเพียง เวลาไม่มีกำลังใจก็จะกราบภาพของท่าน เป็นแรงบันดาลใจ ตอนนั้นตนมีเรื่องถูกขับไล่ที่เก็บภาพของพระองค์เอาไว้หัวนอน จนมีกำลังใจจนมีที่อยู่ทุกวันนี้ ซึ่งหากสามารถบอกกับพระองค์ได้ ก็อยากที่จะสัญญากับพระองค์ว่าจะทำดีทั้งชีวิตเพื่อพระองค์ท่านตลอดไป