ข่าว

SMEsแปรรูปเกษตร ลดต้นทุน เพิ่มรายได้!

SMEsแปรรูปเกษตร ลดต้นทุน เพิ่มรายได้!

05 พ.ย. 2559

โดย - โต๊ะข่าวเกษตร

              กระทรวงอุตฯ ประกาศความสำเร็จโครงการ OPOAI ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ช่วยผู้ประกอบการ SMEs อุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร คิดเป็นมูลค่ากว่า 326 ล้านบาท

              นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมเป็นภาคที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งโครงการพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาคตามนโยบาย One Province One Agro-Industrial Product หรือ OPOAI (โอปอย) ได้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสถานประกอบการ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ รวมถึงกำหนดให้มีกลยุทธ์ขับเคลื่อนตลาดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ หาช่องทางการตลาด ซึ่งการดำเนินงานเชิงลึกเป็นการสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกภาคส่วนในการต่อเครือข่ายเป็นจิ๊กซอว์ในลักษณะของการทำงานไตรภาคีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร เครือข่ายท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาค เพื่อให้สถานประกอบการสามารถแข่งขันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

            นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับแนวทางการดำเนินโครงการ OPOAI นั้น กระทรวงฯ ได้จัดทีมที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ปรึกษาแนะนำสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการผ่านแผนงานพัฒนาที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ใน 7 ด้าน ประกอบด้วย แผนงานที่ 1 บริหารจัดการโลจิสติกส์ 18 แผน มูลค่าผลประโยชน์ 31,879,291.50 บาท/ปี ,2 เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 56 แผน มูลค่าผลประโยชน์ 85,851,993.58บาท/ปี,3.ปรับปรุงคุณภาพและพัฒนางาน 35 แผน มูลค่าผลประโยชน์ 37,297,631.88บาท/ปี,4.ลดต้นทุนพลังงาน 19 แผน มูลค่าผลประโยชน์ 13,516,088.48 บาท/ปี,5.ยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์/มาตรฐานสากล 31 แผน มูลค่าผลประโยชน์ 70,500,000.00 บาท/ปี,6.กลยุทธ์การขับเคลื่อนทางการตลาด 28 แผน มูลค่าผลประโยชน์ 77,373,750.00 บาท/ปี,7 การบริหารจัดการด้านการเงิน 13 แผน มูลค่าผลประโยชน์ 10,000,000.00 บาท/ปี

             นายสมชาย กล่าวทิ้งท้ายว่าผู้ประกอบการที่เข้ารับรางวัล สามารถยกระดับธุรกิจของตัวเองให้มีศักยภาพทั้งเรื่องของการบริหารจัดการโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนพลังงานอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ทั้งนี้ ทราบได้จากการลงพื้นที่ในแต่ละจังหวัด แต่ละสถานประกอบการ ซึ่งล้วนให้ความร่วมมือกับทีมที่ปรึกษาที่เข้าไปให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี ทำให้ทีมที่ปรึกษาทราบเป้าหมาย ข้อเด่น ข้อด้อยของ แต่ละสถานประกอบการเพื่อระดมความคิดเห็นในการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ตรงกับแผนงานที่สถานประกอบการนั้นๆ เข้าร่วมโครงการโอปอย ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมจุดแข็ง และเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นที่พึ่งของเกษตรกรในท้องถิ่นและเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับสถาบันการศึกษาหรืออื่นๆ ในการเข้าเยี่ยมชมสถานประกอบการนั้นๆ ต่อไป

 

///////////////////