“วิษณุ เครืองาม” ยอมรับกลไกในร่างรัฐธรรมนูญตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจะทำให้มีโอกาสได้ “นายกฯคนนอก” ที่อยู่ได้นานถึง 8 ปี
“เมื่อเสนอครบแล้วว่าจะต้องเอาคนนอกบัญชี สามาชิกรัฐสภาทั้งหมด 700 กว่าคน ก็ต้องมาโหวตกัน ซึ่งการโหวตตรงนี้จะต้องได้คะแนนเสียง 2 ใน 3 นั้น คือ 500 เสียง ซึ่งถึงตรงนี้ก็ยังไม่ได้ชื่อหรือตัวนายกฯ
จากนั้นวันรุ่งขึ้น เมื่อมีการยินยอมให้เสนอชื่อคนนอกแล้ว ก็ต้องมาเริ่มโหวตให้ได้คะแนน 376 เสียง แต่ไม่ได้มีตรงไหนระบุว่า แล้วคนที่จะเสนอชื่อนายกฯนั้น จะต้องเป็น ส.ส.หรือส.ว. ตรงนี้จึงเป็นที่มาที่ทำให้กรธ.อธิบายว่าก็ไม่มีตรงไหนระบุว่าให้ ส.ว.เป็นคนเสนอชื่อ ดังนั้นจึงต้องกลับมาให้ ส.ส.เป็นคนเสนอ แล้วจึงให้ส.ว.เป็นคนร่วมโหวต” นายวิษณุ กล่าว
“ศาลรัฐธรรมนูญจึงเห็นว่า เมื่อกรธ.ใช้คำว่าในวาระเริ่มแรกนับตั้งแต่มีการได้สมาชิกรัฐสภาจะชวนให้เกิดความเข้าใจไปว่าเฉพาะหนแรกหนเดียว แต่ในเมื่อเจตนารมณ์ของประชามติหมายถึงกี่หนก็ได้ แต่ให้อยู่ใน 5 ปีจึงให้ไปแก้ถ้อยคำให้ชัดเจนเป็นว่ากี่หนก็ได้ใน 5 ปี เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด”
“ต่อไปนี้ประเทศไทยการหานายกฯ เริ่มจากประชุม 2 สภาฯแล้วเลือกว่าจะเอาใครเป็นนายกฯ โดยต้องมาจากบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอพรรคละ 3 คน ถ้าได้ก็ได้ ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ โดยดูจากคะแนนว่าใครได้ถึง 376 เสียงคนนั้นก็ได้เป็นนายกฯ แต่ถ้าไม่ได้ถึง 376 เสียงก็ต้องประชุมกันทุกวัน จนกว่าจะได้ 376 เสียง จนถึงวันหนึ่งถ้าเบื่อแล้วก็แปลว่าจะเอาคนนอกบัญชี ก็ต้องให้ส.ส.หรือส.ว.ก็ได้รวมกันเข้าชื่อให้ได้ 376 คนเสนอขอเอาคนนอกก็แปลว่าญัตตินี้จะเข้าไปในสภาฯ แล้วสภาฯต้องโหวตเพื่อยอมให้เอาคนนอก โดยมีเสียง 500 คน แต่ถ้าได้ไม่ถึง 500 คนก็แปลว่าไม่มีโอกาสจะเอาคนนอก ดังนั้นก็ต้องกลับไปตะบี้ตะบันเอาจากพรรคละ 3 รายชื่อ แต่ถ้าได้ถึง 500 คนแปลว่ายอมให้เอาคนนอก พรุ่งนี้ก็มาประชุมกันใหม่ ใครเสนอชื่อนายกฯขึ้นมาแล้วโหวตได้ 376 เสียงคนนั้นก็เป็นนายกฯแล้วถ้ายังไม่ถึง 376 เสียงอีกก็ทำไปจนกระทั่งได้ 376 เสียง” นายวิษณุ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง