
โครงข่าย'ใยแมงมุม'กำจัดจุดอ่อนตร.ตั้งด่าน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้ใช้รถใช้ถนนในกรุงเทพฯ อาจจะเคยหงุดหงิดกับการตั้งด่านตรวจจับของ สน.ต่างๆ ซึ่งมักจะตั้งด่านตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมายกันถี่ยิบ จนเป็นเหตุให้รถติดกันยาวเหยียด เหมือนเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ต่อจากนี้ไปภาพแบบนั้นจะไม่ปรากฏให้เห็นอีกต่อไป เนื่องจาก พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา แม่ทัพตำรวจนครบาล ริเริ่มแนวคิดบูรณาการตั้งด่านของแต่ละ สน.พร้อมกับมอบหมายให้ พ.ต.อ.สมนึก น้อยคง ผู้กำกับการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และผู้ดูแลศูนย์วิทยุผ่านฟ้า (191) ไปวางแผนกำหนดจุดตั้งด่านตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมาย ในรูปแบบโครงข่ายใยแมงมุม โดยให้แต่ละ สน.รับไปปฏิบัติและเริ่มดำเนินการมากว่า 2 เดือนแล้ว โครงข่ายใยแมงมุมมีประสิทธิภาพเพียงใด วันนี้ "คม ชัด ลึก" จะพาไปพบกับผู้ดูแลโครงการนี้กัน?
ถาม : ที่ผ่านมาการตั้งด่านตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมายของแต่ละ สน.ดำเนินการอย่างไร
พ.ต.อ.สมนึก : แต่ก่อนการกำหนดจุดล่อแหลมจุดตรวจของแต่ละโรงพักจะไม่เหมือนกัน พูดง่ายๆ ต่างคนต่างตั้งด่าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ตอนมารับตำแหน่งใหม่ๆ ท่านดูแล้วก็ว่ามันมีปัญหา ถนนบางสายมีการตั้งด่านซ้ำซ้อนกัน แต่กลับป้องกันอาชญากรรมไม่ได้ สมมติว่าประชาชนขับรถมาเจอ สน.บางยี่ขัน ตั้งด่านอยู่ พอขับรถเลยมาอีกนิดก็เจอ สน.ตลิ่งชัน เลยไปอีกหน่อยก็เป็น สน.ธรรมศาลา ถ้ามันเกิดเหตุขึ้นมาด่านแรกจับได้แล้ว ไม่ต้องไปถึงด่านที่ 2 หรือด่านที่ 3 ตรงกันข้ามการตั้งด่านตรวจลักษณะนี้กลับทำให้รถติดแล้วประชาชนเดือดร้อน ขณะที่ถนนบางสายไม่มีการตั้งด่านเลย นี่เป็นจุดอ่อนของการตั้งด่าน ว.43 (ด่านตรวจป้องกันเหตุอาชญากรรม)
ถาม : แล้วรูปแบบการบูรณาการตั้งด่านของแต่ละ สน.
พ.ต.อ.สมนึก : ท่าน ผบช.น.ให้นโยบายเอาไว้ว่า ถนนทุกสายต้องมีการตั้งด่าน ว.43 ตลอดเวลา แต่ต้องไม่ซ้ำซ้อนกัน จึงวางแผนการตั้งจุด ว.43 ทั้งหมดในเขตนครบาล 84 โรงพัก โดยถนนเส้นหนึ่งจะมีการตั้งด่านตรวจตั้งแต่สี่ทุ่มถึงตีห้า แบ่งเป็นช่วงเวลาต่างๆ ให้กลุ่มโรงพักหมุนเวียนมาตั้งด่านตรวจสกัด เช่น ถนนบรมราชชนนีตั้งตอนสี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน มีด่านของ สน.บางยี่ขัน ตั้งอยู่ พอเที่ยงคืนถึงตีสองต้องมี สน.อื่นมารับช่วงต่อ สรุปว่าไม่ว่าคุณจะมาเวลาไหนคุณก็จะเจอการตั้งด่านตลอดถนนบรมราชชนนีนั่นเอง เพียงแต่จะเปลี่ยนสถานที่และสลับสับเปลี่ยนโรงพัก คล้ายโครงข่ายใยแมงมุมจะเป็นผลดีต่อประชาชน และชาวบ้านเองก็ไม่ต้องมาเดือดร้อน ที่ต้องเจอด่านตรวจค้นแล้วตรวจค้นอีก
ถาม : การปรับเปลี่ยนช่วงแรกเป็นอย่างไร
พ.ต.อ.สมนึก : ตอนกำหนดจุดการตั้งด่านก็มีปัญหาเล็กน้อย และใช้เวลาในการลงพื้นที่สำรวจก่อนกำหนดแผนการตั้งจุดไปให้ สน.ต่างๆ นำไปปฏิบัติ จากนั้นจึงมีหนังสือไปสอบถามว่า การตั้งด่านบริเวณนี้มีผลเสียต่อการป้องกันอาชญากรรมหรือไม่ บางพื้นที่ก็ขอให้ขยับจุดตั้งด่านถอยหลังไปอีก 200-300 เมตร เพื่อจะป้องกันอาชญากรรมได้ดีกว่า ปัญหาก็มีแค่นี้
ถาม : การตั้งจุดตรวจแบบโครงข่ายใยแมงมุมตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาให้ผลอย่างไร
พ.ต.อ.สมนึก : หลังจากทำโครงข่ายใยแมงมุม ผลการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายแต่ละด่านสูงมาก ซึ่งเป็นผลจากการตั้งด่านตรวจค้นแบบ 4 จุด 4 ช่วงเวลาบนถนนเส้นเดียวกัน คือ แต่ละกลุ่มโรงพักจะหมุนกันตั้งจุดตรวจไม่ซ้ำเวลาและสถานที่ ทำให้คนร้ายไม่รู้ว่าจะมีการตั้งด่านเมื่อไรและที่ไหน ส่งผลให้คนร้ายวางแผนก่ออาชญากรรมยากขึ้น
ถาม : แล้วมาตรการตรวจเช็กการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละ สน.
พ.ต.อ.สมนึก : ทุกวันตอนเจ็ดโมงเช้า ทุกโรงพักจะส่งรายงานสรุปผลการปฏิบัติหน้าที่เข้ามาที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างเมื่อเช้าวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 34 ราย พบการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.จราจร 27 ราย พกอาวุธมีด 1 ราย ยาเสพติด (ยาบ้า) 2 ราย เมาสุราขณะขับขี่ 1 ราย หากไม่สามารถตั้งด่านได้ก็จะมีหมายเหตุระบุมา เช่น มีขบวนเสด็จหรือฝนตก ฯลฯ
ถาม : สถิติการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายจากการตั้งด่านรอบเดือนที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สมนึก : ผลการตั้งจุด ว.43 แบบใหม่ทั้ง 84 สน.ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบอาวุธปืน 10 ราย อาวุธมีด 50 ราย ยาบ้า 25 ราย กัญชา 4 ราย ยาไอซ์ 1 ราย ต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 35 ราย โพยทายผลฟุตบอล 3 ราย เมาสุราขณะขับขี่ 32 ราย จักรยานยนต์ต้องสงสัย 32 ราย ซึ่งการตั้งจุดตรวจแบบใหม่มีประโยชน์มาก อย่างอาวุธปืน 10 กระบอกที่ยึดมาได้ไม่รู้ว่าจะเอาไปก่อเหตุอะไร หรือถ้าไม่ได้เอาไปก่อเหตุอะไร แต่หากเขาบันดาลโทสะอาจนำมาใช้ก่อเหตุได้ และที่พบยังเป็นอาวุธสงครามด้วย
ที่สำคัญในการตั้งด่านแต่ละครั้ง ยังมีการสุ่มตรวจประวัติอาชญากรรมผู้ต้องสงสัยผ่านทางเอสเอ็มเอสของเครือข่ายเอไอเอส ด้วยการกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนส่งเอสเอ็มเอสไปตรวจสอบกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรก็จะมีรายละเอียดว่า มีประวัติอาชญากรหรือไม่ เมื่อคืนก็สามารถจับกุมได้ 3 ราย มีทั้งคดีหลบหนีราชการทหาร คดีร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น คดีแจ้งความเท็จ ซึ่งเป็นนโยบายของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ที่ริเริ่มให้นำมาทดลองใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แล้วปรากฏว่าได้ประสิทธิผลดีมาก
ผ่านไปแค่ 2 เดือนเท่านั้นโครงข่ายใยแมงมุมยังสร้างผลงานได้น่าประทับใจได้เพียงนี้ แล้วอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร น่าสนใจและจับตามอง ด้วยหนทางสายอาชญากรรมนั้น มักเต็มไปด้วยบรรดามารมากเล่ห์ ที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและก้าวนำตำรวจอยู่ 1 ก้าวเสมอ กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ธาตุแท้ของเนื้องาน
ทีมข่าวรายงานพิเศษ : เรื่อง