
"กระถิน"ลดความดัน-ต้านมะเร็ง!
โดย - นายสวีสอง
“กระถิน” ผักริมรั้วที่เราเก็บมาจิ้มน้ำพริกกันนั้น มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาเขตร้อนและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก เริ่มนำเข้ามาปลูกในไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย จัดเป็นพืชริมรั้วที่ตายยากถึงแม้ว่าจะตัดทิ้งแต่ก็สามารถแตกกิ่งขึ้นมาใหม่ ในอดีตคนไทยเชื่อว่ากระถินเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งที่ควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และหากปลูกร่วมกับต้นสารภีนั้นจะเป็นเกาะกำบังสิ่งที่ชั่วร้ายได้
นอกเจากความเชื่อว่าเป็นไม้มงคลแล้วยังพบว่าเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณนานับประการตั้งแต่ยอดตลอดจนไปถึงรากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านโรคมะเร็ง บำรุงสายตา บำรุงตับ ขับระดูขาว จึงถือได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะชั้นเลิศ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีประโยชน์ด้านการเลี้ยงสัตว์โดยนำมาเป็นอาหาร อีกทั้งยังขึ้นชื่อว่าเป็นพืชบำรุงดินซึ่งช่วยแก้ปัญหาการขาดสารไนโตรเจนในดินได้
จัดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ในวงศ์ LEGUMINOSAE-MIMOSOIDEAE ชื่อวิทยาศาสตร์ Leucaena leucocephala (Lamk.) ชื่อสามัญ : White Popinac, Lead Tree, Horse Tamarind และ Leucaena ชื่อเรียกอื่นๆ กระถินไทย, กระถินยักษ์, กระถินบ้าน (ภาคกลาง), กะเส็ดโคก, กะเส็ดบก (ราชบุรี), ตอเบา, สะตอเทศ, สะตอเบา (ภาคใต้), ผักก้านถิน (เชียงใหม่)
ลำต้น มีขนาดความสูงประมาณ 3-10 เมตร ไม่ผลัดใบ มีเรือนยอดรูปไข่หรือกลม เปลือกต้นมีสีเทา และมีปุ่มนูนของรอยกิ่งก้านที่หลุดร่วงไป
ใบ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น เรียงสลับกัน แกนกลางใบประกอบมีขน ใบแยกแขนง 3-19 คู่ เรียงตรงข้ามกัน ยาว 5-10 เซนติเมตร ส่วนใบย่อยมี 5-20 คู่ เรียงตรงข้ามกัน รูปขอบขนาน โคนใบเบี้ยว ปลายใบแหลม ขอบใบมีขน แต่ละใบมีเส้นแขนงอยู่ข้างละ 5-6 เส้น
ดอก สีขาวนวล ออกเป็นช่อแบบกระจุกแน่นตามง่ามใบและปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงโคนติดกันลักษณะเป็นรูประฆัง ส่วนปลายแยกเป็นสามเหลี่ยมเล็ก 5 แฉก มีขน กลีบดอกมี 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้ 10 อัน เมื่อดอกบานเต็มที่จะกว้าง 2-2.5 เซนติเมตร ออกดอกช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน
ผล เป็นฝักแบน ปลายฝักแหลม โคนสอบ ฝักเมื่อแก่จะแตกตามยาว ฝักยาว10-20 เซนติเมตร และกว้าง 1.5-2 เซนติเมตร ในฝักมีเมล็ดเรียงตามขวางอยู่ 15-30 เมล็ด และจะออกผลช่วงเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนมกราคม
เมล็ด เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปไข่แบนกว้าง มีสีน้ำตาลและเป็นมัน
ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยหรือในดินเหนียวอุ้มน้ำได้ดี
ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, ดอก, ยอด, ฝัก และเมล็ด
สรรพคุณทางยา : ราก ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ และขับระดูขาวของสตรี,ดอก แก้เกล็ดกระดี่ขึ้นตา และบำรุงตับ,ยอด เสริมสร้างและบำรุงกระดูกลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคความดันโลหิตสูง บำรุงและรักษาสายตา บำรุงหัวใจ เจริญอาหาร แก้อาอาการร้อนในกระหายน้ำ ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร,ฝัก เสริมสร้างและบำรุงกระดูกบำรุงหัวใจ เจริญอาหาร แก้อาอาการร้อนในกระหายน้ำ แก้อาการท้องร่วง ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร ใช้ห้ามเลือด,เมล็ด ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยเสริมสร้างและบำรุงกระดูกแก้อาการนอนไม่หลับ ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวกลม ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยขับระดูขาวของสตรี ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร บำรุงตับและไต
วิธีการใช้ :
- บำรุงกระดูก ลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคความดันโลหิตสูง บำรุงและรักษาสายตา บำรุงหัวใจ เจริญอาหาร แก้อาอาการร้อนในกระหายน้ำ ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร : นำยอดอ่อนมารับประทานเป็นผักสดๆ หรือรับประทานร่วมกับน้ำพริก ส้มตำ ยำหอยนางรม ยำเล็บมือนาง
- เสริมสร้างและบำรุงกระดูก บำรุงหัวใจ เจริญอาหาร แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ท้องร่วง ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร ใช้ห้ามเลือด : นำฝักอ่อนมารับประทานเป็นผักสดๆ หรือรับประทานร่วมกับอาหารประเภทต่างๆได้แก่ น้ำพริก ส้มตำ และยำต่างๆ
- บำรุงกระดูก แก้อาการนอนไม่หลับ ถ่ายพยาธิตัวกลม ขับลมในลำไส้ ขับระดูขาว ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร บำรุงตับ และไต : นำเมล็ดอ่อนๆมารับประทานเป็นผักสดๆ หรือรับประทานร่วมกับอาหารประเภทต่างๆได้แก่ น้ำพริก ส้มตำ และยำต่างๆ
- ยาอายุวัฒนะ ช่วยขับระดูขาว : นำรากกระถินมาต้มกับน้ำเปล่า แล้วรับประทานน้ำต้มราก
- แก้เกล็ดกระดี่ขึ้นตา ช่วยบำรุงตับ : นำดอกคั้นเป็นน้ำ แล้วรับประทานน้ำคั้นดอก หรือรับประทานน้ำต้มดอ
ข้อควรระวัง : เนื่องจากใบของกระถินมีสารที่เป็นพิษคือสารลิวซีนีน (Leucenine) หากสัตว์กระเพาะเดียวกินใบกระถินในปริมาณสูง อาจทำให้ขนร่วงและเป็นหมันได้ แต่ยังไม่มีรายงานความเป็นพิษเนื่องจากการกินกระถินในคน
แหล่งที่มาข้อมูล : สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.,ศูนย์ความรู้ด้านการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.,ระบบฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน).,สถาบันการแพทย์แผนไทย.,“พืชผักสมุนไพรใกล้ครัว:กระถิน“.(ครูนาย).อ้างอิงใน : สถาบันวิจัยสมุนไพรไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (นฤมล มงคลชัยภักดิ์),พันธุ์ไม้ย้อมสีธรรมชาติ กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.



