
ข้าวไก่น้อย… ข้าวหอมลาว!
โดย - รศ.สมพร อิศวิลานนท
เมื่อกล่าวถึงประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือเรียกสั้นๆว่าประเทศลาวซึ่งเป็นหนึ่งของประเทศในประชาคมอาเซียนนั้น ผู้คนจำนวนมากจะรู้จักประเทศลาวจากคุณค่าของวัฒนธรรม เช่นการเป็นมรดกโลกของเมือง “หลวงพระบาง” ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ของอาณาจักรล้านช้างซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศลาว นอกจากนี้อาณาจักรล้านช้างยังเคยเป็นที่ประดิษฐานของ”พระบาง” ที่เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประชาชนลาว
ลาวเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยพันธุกรรมข้าวเหนียวและมีจำนวนพันธุ์ธุกรรมข้าวเหนียวมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก ในจำนวนพันธุ์ข้าวเหนียวของลาว ข้าวเหนียวพันธุ์ “ไก่น้อย” เป็นพันธุ์ข้าวเก่าแก่ของลาวพันธุ์หนึ่ง ที่ผู้คนในประเทศภาคภูมิใจและยกย่องให้เป็นข้าวคุณภาพชั้นดี อีกทั้งยังมีราคาสูงกว่าข้าวเหนียวพันธุ์อื่นๆ เพราะมีความนุ่มอร่อยและมีกลิ่นหอม
ข้าว “ไก่น้อย” เป็นข้าวเหนียวนาน้ำฝนและมีแหล่งเพาะปลูกอยู่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของลาว โดยเฉพาะใน จ.เชียงขวาง มีเมล็ดกลมสั้นคล้ายข้าวญี่ปุ่น (japonica variety) นุ่มเหนียว มีกลิ่นหอม อีกทั้ง มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้เกิดลักษณะจำเพาะและหน่วยงานราชการของลาวกำลังดำเนินการเพื่อขอขึ้นทะเบียนแหล่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(Geographical indication) ให้กับข้าวไก่น้อย ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณค่าและเพิ่มมูลค่าได้อีกทางหนึ่ง
การเป็นข้าวหอมทำให้มีการนำข้าวไก่น้อยไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมผลิตเบียร์ ซึ่งหากใครได้ไปที่ประเทศลาวแล้วลองถามหาเบียร์ลาวระดับพรีเมียม ผู้คนที่นั่นจะแนะนำเบียร์ที่ทำจากข้าวไก่น้อยเพราะมีความหอมของรสเบีร์แปลกไปจากเบียร์ชนิดอื่นๆในท้องตลาด เบียร์ข้าวไก่น้อยจึงเป็นการใช้นวัตกรรมต่อยอดสินค้าข้าวหอมลาวไปสู่อุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่สร้างมูลค่าเพิ่มตามมา
นอกจากนี้ ยังได้มีการนำข้าวไก่น้อยไปผลิตในอุตสาหกรรมน้ำนมข้าว ทำให้ได้น้ำนมข้าวที่มีกลิ่นหอมธรรมชาติ รสชาดินุ่มนวล มีองค์ประกอบของโปรตีน ธาตุอาหารและวิตามินต่างๆ เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ของผู้รักสุขภาพ และเป็นการนำความหอมของข้าวพันธุ์ไก่น้อยมาสร้างความจำเพาะให้เป็นสินค้าโภชนาการ
ผลผลิตข้าวไก่น้อยของลาวมีจำกัด ทั้งนี้เพราะถูกจำกัดด้วยสภาพภูมินิเวศของพื้นที่ๆเพาะปลูก ประมาณว่าผลผลิตข้าวไก่น้อยในแต่ละปีมีไม่เกิน 10,000 ตันข้าวเปลือก หรือประมาณ 6,500 ตันข้าวสาร ในจำนวนนี้มีการส่งออกในรูปของข้าวสารปีละประมาณ 500 ตัน ซึ่งประเทศที่นำเข้าสำคัญได้แก่ เวียดนาม จีน และสหภาพยุโรป ส่วนที่เหลือใช้บริโภคและอุตสาหกรรมในประเทศ เป็นสำคัญ
ข้าวไก่น้อยจึงเป็นตัวอย่างของนวัตกรรมการสร้างห่วงโซ่คุณค่ารูปแบบหนึ่ง ซึ่งทั้งเกษตรกร ภาครัฐและภาคธุรกิจของลาวต่างก็ร่วมมือนำความหอมของข้าวไก่น้อยมาใช้ในการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้าเพื่อป้อนในตลาดพรีเมี่ยม นำไปสู่การเพิ่มรายได้ให้กับชาวนา อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่งคั่งยังยืนในอาชีพทำนาให้กับชุมชนตามมา
ข้าวไก่น้อยจึงเป็นทั้งเอกลักษณ์และความความภูมิใจของคนชาติลาว