ข่าว

สพก.จัดฉลองใหญ่ "สนามศุภชลาศัย" ครบ 72 ปี

สพก.จัดฉลองใหญ่ "สนามศุภชลาศัย" ครบ 72 ปี

09 ก.พ. 2552

สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (สพก.) เตรียมจัดงาน "ครบรอบ 72 ปี "สนามศุภชลาศัย" อย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 11 ก.พ.นี้

โดยมี ชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน พร้อมเชิญลูกของหลวงศุภชลาศัย อธิบดีกรมพลศึกษาคนแรกร่วมเป็นเกียรติ แถมดึงอดีตนักกีฬาทีมชาติชื่อดังซึ่งเป็นตำนานแห่งสิงห์สนามศุภฯ มาร่วมเล่าขานถึงความผูกพันกับสนามด้วย นายสมบัติ คุรุพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (สพก.) เปิดเผยถึงการจัดงานครบรอบ 72ปี การวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างสนามศุภชลาศัย “สนามศุภชลาศัย ฉลองชัย 72ปี” ว่าสำหรับงานครบรอบการวางศิลาฤกษ์ของสนามศุภชลาศัย 72 ปี เดิมทีจะต้องจัดงานในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่มีการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2480 แต่ สพก.ติดงานปิดการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 30 ที่ จ.สุโขทัย ซึ่งวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ตรงกับวันปิดการแข่งขันพอดี จึงเห็นควรให้มีการจัดงานในวันที่ 11 กุมภาพันธ์แทน สำหรับงานครบรอบการวางศิลาฤกษ์ของสนามศุภชลาศัย 72 ปีครั้งนี้ จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ บริเวณลานหน้าองค์พระพลบดี ด้าน ถ.พระราม 1 สนามกีฬาแห่งชาติ เริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นพิธีสงฆ์และตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 72 รูป เวลา 08.30 น. เป็นพิธีประกาศเกียรติคุณ และมอบโล่ให้นักกีฬาผู้ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ และผู้สนับสนุนการพัฒนาสนามศุภชลาศัย จากนั้นเป็นพิธีเปิด “สวน 72 ปี ศุภชลาศัย” นำโดย นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธาน ส่วนเวลา 10.00 น. เป็นการเล่าขานตำนาน “สนามศุภชลาศัย” ดำเนินการโดย นายเทพพิทักษ์ จันทรสุเทพ ซึ่ง สพก.จะเชิญอดีตนักกีฬาทีมชาติชื่อดังๆ ที่เป็นตำนานสิงห์สนามศุภฯ มาร่วมเล่าขานรำลึกถึงความหลัง พร้อมกันนี้ยังจะเชิญลูกของหลวงศุภชลาศัย นางอาภา กฤดากร ณ อยุธยา และนางพรศุภศรี จามรมาร มาร่วมเป็นเกียรติในงานด้วย อนึ่ง สนามศุภชลาศัย เดิมมีชื่อว่าสนามกรีฑาสถาน ซึ่งใช้เป็นสถานที่แข่งขันกรีฑานักเรียน ต่อมา น.ท.หลวงศุภชลาศัย อธิบดีกรมพลศึกษาคนแรก ได้ขยายพื้นที่โดยการทำสัญญาเช่าที่เดิมตำบลวังใหม่ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อก่อสร้างสนามกรีฑาสถานแห่งชาติ และวางศิลาฤกษ์วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2480 แรกเริ่มสร้างอัฒจันทร์จุคนดูได้แค่ 4,000 คน จากนั้นเมื่อสร้างเสร็จในปี 2484 กรมพลศึกษาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ" เพื่อเป็นอนุสรณ์และเกียรติแก่หลวงศุภชลาศัย