
“สมชาติ ปิ่นทอง”สู้เพื่อโป้ยเซียน
โดย -โต๊ะข่าวเกษตร
ช่วงที่โป๊ยเซียนกำลังฮิตตนซื้อมาแต่ละพันธุ์ต่ำสุดตกกระถางละ 1,000 บาท บางพันธุ์ที่หายากซื้อราคาสูงถึงต้นละ 20,000 บาทเพาะเลี้ยงและปลูกมาเรื่อยมากกว่า 20 ปีแล้ว พันธุ์โป๊ยเซียนมีมากหลายสายพันธุ์มีทั้งดอกเล็กดอกใหญ่และมีทุกสีสำหรับลุงสมชาติ ปิ่นทอง อายุ 72 ปีที่หันมาเอาดีในการเพาะชำโป็ยเซียนและไม้ดอกไม้ประดับกว่า 100 สายพันธุ์ จำนวนกว่า 20,000 กระถางทำเงินนับแสนบาทในแต่ละเดือน โดยมีพ่อค้าแม่ค้าจากหลายจังหวัดในภาคอีสาน และชาวลาวมารับซื้อถึงสวนทำเงินเป็นล่ำเป็นสันสร้างงานสร้างอาชีพให้ชาวบ้านหลายสิบคนที่มารับจ้างเพาะชำในสวนของลุง
ลุงสมชาติเล่าว่าพื้นเพตนเป็นคน จ.นครสวรรค์ก่อนมารับราชการเป็น หัวหน้าอนุรักษ์ดินและน้ำ ศูนย์พัฒนาที่ดิน จ.นครพนม ตั้งแต่ปี 2509 จนปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ จ.นครพนม นานกว่า 50 ปีแล้ว หลังลาออกจากราชการได้ 10 ปีเพื่อมาทำสวนโดยตนจะเปิดอินเตอร์เน็ต Google ศึกษาการปลูกไม้ดอกประดับพืชผักสวนครัวลองผิดลองถูกจนปัจจุบันมีความชำนาญจนรู้แทบจะทุกเรื่องในการเพาะชำขั้นตอนดูแลรักษาพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ
ช่วงที่โป๊ยเซียนกำลังฮิตตนซื้อมาแต่ละพันธุ์ต่ำสุดตกกระถางละ 1,000 บาท บางพันธุ์ที่หายากซื้อราคาสูงถึงต้นละ 20,000 บาทเพาะเลี้ยงและปลูกมาเรื่อยมากกว่า 20 ปีแล้ว พันธุ์โป๊ยเซียนมีมากหลายสายพันธุ์มีทั้งดอกเล็กดอกใหญ่และมีทุกสียกเว้นโป๊ยเซียนดอกสีดำและสีน้ำเงินหากเพาะพันธุ์โดยการใช้เมล็ดจะใช้เวลานานถึง 1 ปีส่วนใหญ่จะใช้วิธีคัดต้นพ่อพันธุ์แม่พันธ์ตัดต่อยอดเสียบกิ่งนักเพาะเลี้ยงมืออาชีพจะอาศัยแมลงผสมเกสรเพื่อขยายพันธุ์
โดยเช่าที่ดินเนื้อที่กว่า 10 ไร่ริมถนนหลวง 212 สายนครพนม-ธาตุพนมต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ทำสวนโป๊ยเซียนและไม้ดอกไม้ประดับ ภายใต้ชื่อสวนโป้ยเซียนนครพนม ไว้เพาะเลี้ยงเพาะโป๊ยเซียน อาทิ พันธุ์นครพิงค์กำไรเพิ่มพูน ระฆังทอง เพชรน้ำหนึ่ง บัลลังค์เงินเป็นต้น ปัจจุบันมีมากกว่า 20,000 กระถาง แต่ที่เพาะพันธุ์โป๊ยเซียนเพิ่มใหม่ในชื่อ“สาวนครพนม” โดยโป๊ยเซียนจะเลี้ยงโดยธรรมชาติไม่ฉีดพ่นยา วางไว้กลางแจ้งชอบอากาศลมโชย ทนต่อสภาพแดดจัด ใช้เวลาเพาะเลี้ยงนาน 3-4 เดือนก่อนให้ผลผลิตดอกใหญ่ก็จะขายได้ในราคาส่งต้นละ 25 บาท ขายปลีกกระถางละ 40 บาท
ที่ผ่านมา มีพ่อค้าแม่ค้าจาก จ.อุบลราชธานี หนองคาย อุดรธานีและจากเวียงจันทน์ สปป.ลาวนำรถกระบะมารับซื้อถึงสวนครั้งละ 700-1,000 ต้นทำเงินให้เดือนละกว่า 100,000 บาท นอกจากนี้ยังได้เพาะชำพืชผักสวนครัวแทบทุกชนิด อาทิต้นแมงลัก สะระแน่โหระพา พริก ลงถุงดำขายส่งต้นละ 8-10 บาท และตระเวนขายตามตลาดนัดไทย-ลาว ใน อ.ธาตุพนม เพื่อนำเงินส่วนนี้มาเลี้ยงแรงงาน 15 คน ซึ่งมีค่าแรงตกเดือนละ 45,000 บาท