ข่าว

“เลี้ยงโคนม"อาชีพพระราชทานฯ ความภาคภูมิใจ"สุวรรณ ปาลี"

“เลี้ยงโคนม"อาชีพพระราชทานฯ ความภาคภูมิใจ"สุวรรณ ปาลี"

17 ต.ค. 2559

 โดย : โต๊ะข่าวเกษตร

 

         "สุวรรณ ปาลี" เจ้าของฟาร์มโคนมแห่ง ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน สมาชิกสหกรณ์โคนมลำพูน จำกัด คือผลิตผลของเกษตรกรผู้เดินตามรอยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการประกอบอาชีพเลี้ยงโคนม อันเป็นโครงการของสำนักงานปศุสัตว์เขต 5 จัดทำยุทธศาสตร์โคนมในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน

          ที่มีเป้าหมายให้เกษตรกรสามารถผลิตน้ำนมได้ 14 กก.ต่อตัวต่อวัน และคุณภาพน้ำนมผ่านเกณฑ์มาตรฐานชั้นดี ไม่น้อยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ลดต้นทุนต่อฟาร์ม สร้างกำไรให้เกษตรกรไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เพิ่มอัตราการบริโภคนมภายในพื้นที่ขึ้นปีละ 10 เปอร์เซ็นต์

          ตลอดจนต้องการเสริมสร้างความเข้มแข็งในองค์กรเกษตรกรโคนม และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการนมทั้งระบบ ทั้งยังมีพันธกิจในการพัฒนาองค์ความรู้การเลี้ยงโคนมให้กับเกษตรกร ปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์โคนม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำนม พัฒนาฟาร์มโคนมและศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบให้ได้มาตรฐานและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการฟาร์มและสุขภาพโคนมให้มากยิ่งขึ้น 

         โดยที่สุวรรณเล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานเป็นพนักงานบริษัทและทำสวนยาสูบ หลังจากแต่งงานแล้ว จึงเก็บเงินซื้อที่นาจำนวน 4 ไร่ 2 งาน และหันมาเลี้ยงโคนมหลังจาก สำนักงานปศุสัตว์เขต 5 ได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น อีกทั้ง ในตำบลห้วยยาบมีการเลี้ยงโคนมอยู่แล้ว และเห็นเพื่อนบ้านมีรายได้จากการเลี้ยงโคนมที่แน่นอนทุกเดือน จึงเริ่มเลี้ยงโคนม 9 ตัว และสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์โคนมลำพูน 

 

“เลี้ยงโคนม\"อาชีพพระราชทานฯ ความภาคภูมิใจ\"สุวรรณ ปาลี\"

 

          “การให้อาหารโคนม เราจะให้หญ้าสดคือหญ้าเนเปียร์ปากช่อง 1 และมอริชัส (หญ้าขน) จะเน้นให้วัวกินอาหารที่มีคุณภาพดี เพราะจะทำให้น้ำนมดี หากน้ำนมมีมาตรฐานดี ราคาก็จะดีตาม ส่วนมาตรฐานฟาร์ม ผมเป็นคนที่ชอบดูแลเรื่องความสะอาดอยู่แล้ว หากคอกวัวสะอาด วัวก็จะอารมณ์ดี สำหรับการผสมเทียม จะใช้น้ำเชื้อพันธุ์ของกรมปศุสัตว์ 87-93.7 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากอากาศบ้านเราเป็นเขตร้อนมาก ทำให้วัวหอบและเหนื่อยง่าย จึงต้องเลือกใช้น้ำเชื้อจากกรมปศุสัตว์" สุวรรณ กล่าว

 

“เลี้ยงโคนม\"อาชีพพระราชทานฯ ความภาคภูมิใจ\"สุวรรณ ปาลี\"

 

          ปี 2556 ฟาร์มแห่งนี้ จึงได้ตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้สหกรณ์รายย่อยโดยมีสมาชิกเข้ามาศึกษาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้มีโคนมทั้งหมด 61 ตัว ผลิตน้ำนมได้วันละ 350 กิโลกรัม ราคาอยู่ที่ 16.60 บาท/กก. ถ้าส่งขายที่ อ.ส.ค.ในราคา 18 บาท/กก.มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 1.2 แสนบาท หักค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ค่าอาหารสัตว์ ค่าแรงงาน จำนวน 4 หมื่นบาท คงเหลือ 7 หมื่นบาทต่อเดือน

        นอกจากนี้ เขายังได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดีเด่นด้านการจัดการฟาร์ม และได้รับรางวัลดีเด่นอีกมากมาย เช่น รางวัลคุณภาพน้ำนมดีเด่นมา 8 ปี จากการเลี้ยงโคนมมา 11 ปี คนดีเด่นด้านการมีจิตสำนึกที่ดี ด้านอาหารปลอดภัย ฟาร์มโคนมดีเด่นสำนักงานปศุสัตว์และสำนักสุขอนามัย สำนักงานที่ 5 ในปี 2555 เป็นต้น

        อย่างไรก็ตาม สุวรรณบอกว่าพอใจและภาคภูมิใจในอาชีพนี้อย่างมาก เพราะนี่เป็นอาชีพพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมย้ำจะทำหน้าที่เกษตรกรให้ดีที่สุดเท่าที่ตนเองและครอบครัวจะทำได้