
“ไทยเบฟ”จัดทัพแยกชัด3ธุรกิจหลัก
ไทยเบฟฯจัดทัพใหม่เดินหน้าสู่เป้าหมายผู้นำในอาเซียนวางตัวผู้สืบทอดแต่ละสายงานแบ่งแยกชัด 3 กลุ่มธุรกิจหลัก สุรา เบียร์ และกลุ่มนอน-แอลกอฮอล์
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างฝ่ายจัดการครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ 2020 และเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน สู่การเป็นผู้นำในอาเซียน ซึ่งมองในแง่มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) บริษัทเป็นเบอร์ 1 ในอาเซียนแล้ว ด้วยมูลค่า 23,500 ล้านดอลลาร์สิงค์โปร์ และติดอยู่ในท๊อป 5 ของเอเชีย
การปรับโครงสร้างฝ่ายจัดการครั้งนี้ ประกอบด้วย การเลื่อนตำแหน่งให้นายอวยชัย ตันทโอภาส เป็นกรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส (SVP) ดูแลช่องทางการจำหน่ายสินค้า, นายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร เป็นกรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโสควบคุมดูแลเรื่องการเงินและสนับสนุนการเติบโตของบริษัท และการเติบโตของกลุ่ม, นายพิษณุ วิเชียรสรรค์ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจเบียร์ของไทยเบฟ เป็นกรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโสควบคุมดูแลเทคโนโลยีและวิศวกรรมของกลุ่ม
นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้งนายประภากร ทองเทพไพโรจน์ เป็นกรรมการผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจสุราคนใหม่ และนายเอ็ดมอนด์ นีโอ คิม ซูน เป็นกรรมการผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจเบียร์คนใหม่ ซึ่งจะทำให้การจัดแบ่งกลุ่มธุรกิจของไทยเบฟมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลักคือ สุรา เบียร์ และกลุ่มนอน- แอลกอฮอล์ ส่วนนายโฆษิต สุขสิงห์เป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง และควบคุมพัฒนางานเทคโนโลยีสารสนเทศ, นายเอกพล ณ สงขลา เป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่และผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มทรัพยากรบุคคลนายบรรจง ชินธนะศิริ เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายบัญชี และนายปราโมทย์ หรรษมนตร์ เป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สำนักการผลิตสุรา
“การแต่งตั้งฝ่ายจัดการใหม่ในครั้งนี้ เพื่อให้มาขับเคลื่อน สร้างยอดขายและกำไรให้กับบริษัทต่อจากนี้ไป และยังได้วางตัวบุคคลที่จะเข้าสืบทอดตำแหน่งในแต่ละสายงานเข้าไว้ด้วย”นายฐาปน กล่าวและว่าบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศ และในภูมิภาค และยังมองในเรื่องการควบรวมกิจการส่วนงบลงทุนพื้นฐานที่บริษัทจัดสรรสำหรับปี 2017อยู่ที่9,000 ล้านบาทไม่รวมการลงทุนขยายธุรกิจ
ปัจจุบันกำลังมุ่งการลงทุนในกลุ่มธุรกิจนอน-แอลกอฮอล์ เพื่อผลักดันการเติบโตของทั้งกลุ่มธุรกิจ ตั้งเป้าส่วนแบ่งรายได้ระหว่างธุรกิจแอลกอฮอล์ และนอน-แอลกอฮอล์50:50 ภายในปี 2020 ขณะนี้ส่วนแบ่งรายได้กลุ่มนอน-แอลกอฮอล์ ขยับมาอยู่ที่กว่า 40% โดยยอดขายกลุ่มนอน-แอลแอฮอล์ มีประมาณ 60,000 ล้านบาทในอาเซียน