“สนธิ”ได้“วิโรจน์ นวลแข”เป็น"รูมเมท"นอนคุก.. | คมชัดลึก

          7 ก.ย. 59 - นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม กล่าวถึงการควบคุมตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ต้องขังคดีทำเอกสารเท็จว่า จะอยู่ในแดนแรกรับประมาณ 1 เดือน ก่อนจะมีการประเมินว่าผู้ต้องขังสามารถปรับตัวเข้ากับความเป็นอยู่ในเรือนจำได้หรือไม่ ขณะนี้นานสนธิอยู่ในแดนแรกรับ โดยจัดให้ขังรวมอยู่กับนายวิโรจน์ นวลแข เพื่อเป็นเพื่อนคุยในระยะปรับตัว ทั้งนี้ การจัดที่อยู่ให้ผู้ต้องขังไม่ได้คำนึงถึงที่มาว่าจะเป็นวีไอพีหรือไม่ แต่มองว่าเป็นคนมีความรู้ มีการศึกษาน่าจะทำให้ปรับตัวได้ง่ายขึ้น และคงไม่เหมาะหากจะจัดให้คนกลุ่มดังกล่าวไปอยู่รวมกับมือปืนรับจ้าง หรือนักค้ายาเสพติด เรือนจำกลางคลองเปรม ไม่มีผู้ต้องขังโทษน้อย ส่วนใหญ่มีโทษจำคุกเกิน 15 ปีถึงจำคุกตลอดชีวิต สำหรับนายสนธิก็ดูแลเหมือนผู้ต้องขังปกติ เรื่องความเครียดก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดาของผู้ที่ต้องโทษ คงไม่มีใครเข้ามาแล้วหัวเราะเฮฮา หรือร้องตีโพยตีพาย กรณีนายสนธิก็คงทำใจมาบ้างแล้ว เมื่อรับตัวเข้าเรือนจำก็พอปรับตัวได้บ้าง ไม่ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ และไม่ได้ร้องอะไรเป็นพิเศษ ตรงกันข้ามนายสนธิขอใช้ชีวิตปกติเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป
 
          “ ในเรือนจำกลางคลองเปรมไม่มีห้องแอร์ ใครที่บอกมีห้องขังพิเศษอยากท้าให้มาดู ห้องขังเดี่ยวมี แต่ไว้สำหรับลงโทษขังเดี่ยว นักโทษไม่มีใครอยากถูกขังเดี่ยว เขาอยากมีเพื่อนคุย ส่วนเรื่องความแออัดในเรือนจำหลีกเลี่ยงไมได้ เพราะเราขังเต็มความจุ สำหรับเรือนจำกลางคลองเปรมมีห้องขังทุกไซค์ ห้องขังรวม 50 คน ห้องขังเล็ก 5 - 6 คน สำหรับนักโทษใหม่ต้องปรับตัว บางคนปรับตัวเร็ว ใช้เวลาแค่ 7 วัน แต่บางคนถูกขังมาเป็นเดือนแต่ปรับตัวไม่ได้ก็มี ” ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม กล่าว
 
          ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม กล่าวต่อว่า เรือนจำมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำพิพากษาคือควบคุมตัวไม่ให้ผู้ต้องขังออกไปสร้างความเสียหายให้สังคมในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อครบตามคำพิพากษาก็ต้องปล่อยออกไป ผู้ต้องขังก็มีสิทธิมนุษยชนได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มีสิทธิกินอาหาร 3 มื้อ เยี่ยมญาติ เจ็บป่วยต้องได้รับการรักษา ในเรือนจำมีร้านค้าสวัสดิการ มีอาหารขายให้ญาติฝากให้ผู้ต้องขัง