
ยธ.ประสานนิติเวชรพ.ดังร่วมสอบผูกคอในห้องขัง
ธ.เชิญแพทย์นิติเวชจุฬา ,รามา, ศิริราช ร่วมวงสอบ ขีดเส้นรู้ผลใน 15 วัน เผยญาติร่วมมือส่งศพเก็บรักษาที่ห้องเย็นรพ.ธรรมศาสตร์รังสิต ยังไม่จำเป็นต้องผ่ารอบ 2 ด้าน
2 ก.ย. 59 - พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตจากสังคมถึงความผิดปกติในการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาระหว่างถูกควบคุมตัวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดยุติธรรม ได้รายงานถึงแนวทางตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใส จะเชิญหน่วยงานกลางมาร่วมตรวจสอบ เพื่อไม่ให้มีเพียงดีเอสไอเป็นผู้ตรวจสอบฝ่ายเดียว ทั้งนี้ป้องกันไม่ให้เกิดข้อครหา ในส่วนดีเอสไอ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมามีการใช้เครื่องจับเท็จสอบสวนผู้เกี่ยวข้องในการควบคุมตัวผู้ต้องหารวม 3 รายแล้ว แต่ไม่ได้เชิญญาติเข้าร่วมสังเกตการณ์ ตนจึงได้กำชับดีเอสไอว่าหากขั้นตอนใดสามารถเปิดเผยข้อเท็จจริงได้และไม่เป็นอันตรายก็ควรเชิญญาติมาร่วมรับฟังและสังเกตการณ์ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการผ่าพิสูจน์ศพซ้ำ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนเป็นผู้ท้วงติงไปว่าเหตุใดทางญาติจึงจะเร่งรีบเผาศพหลังเสียชีวิตเพียง 1 วัน เนื่องจากคดียังมีข้อเคลือบแคลงสงสัย ดังนั้นจึงควรเก็บรักษาศพไว้ก่อน หรือหากญาติจะนำส่งศพให้หน่วยอื่นตรวจสอบซ้ำก็เป็นเรื่องที่ทำได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องดังกล่าวดีเอสไอต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไร รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จะให้ใครรับผิดชอบ รับผิดชอบเรื่องอะไร เขาทำอะไรผิด หากเป็นกรณีผู้ต้องหาผูกคอตายแล้วเจ้าหน้าที่ปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตแล้วซี่โครงหักก็ไม่มีความผิด เขาต้องรับผิดชอบหรืออย่างไรเพราะเป็นการช่วยชีวิต แต่หากดีเอสไอไปทำให้เขาตายอย่างที่สังคมเคลือบแคลงก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย หากการปั๊มชีวิตเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายก็ต้องมีหน่วยงานกลางเข้ามาอธิบายทำความเข้าใจกับสังคม
ด้านนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนจะตั้งคณะกรรมการระดับกระทรวงเพื่อตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริง โดยจะต้องทราบผลภายใน 15 วัน หลังจากนี้จะทำหนังสือเชิญแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลต่าง ๆ มาร่วมเป็นที่ปรึกษา และจะให้ญาตินายธวัชชัยเข้าร่วมรับฟังทุกขั้นตอน ล่าสุดได้รับความร่วมมือจากญาติในการส่งศพผู้ต้องหามาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเย็นเก็บศพของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต เนื่องจากญาติยังไม่ประสงค์จะเผาศพ กระทรวงยุติธรรมจึงเกรงว่าหากเก็บศพไว้ที่วัดจะทำให้สภาพศพเสียหายได้ ส่วนเรื่องการผ่าซ้ำอาจไม่มีความจำเป็น
ขณะที่พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีการประสานญาติของนายธวัชชัย เพื่อนำศพมาผ่าพิสูจน์หลังจากใบแจ้งสาเหตุการเสียชีวิตของนิติเวชตำรวจระบุว่า ตับแตกมีเลือดออกในช่องท้อง ว่าเพื่อให้สังคมคลายข้อสงสัยและความสบายใจของญาติผู้ต้องหาที่เสียชีวิต ดีเอสไอจึงประสานหน่วยงานกลางประกอบด้วยแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ช่วยทำการพิสูจน์ โดยดีเอสไอจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนการตรวจสอบภายในของหน่วยงานก็ยังดำเนินการอยู่และพร้อมจะชี้แจงให้ทุกฝ่ายรับทราบพร้อม ๆ กัน
ส่วนที่มีการระบุว่า กล้องวงจรปิดหน้าห้องควบคุมตัวหายไปในวันเกิดเหตุนั้นไม่เป็นความจริงกล้องยังอยู่และเปิดใช้งานได้ตามปกติ และพร้อมจะเปิดให้ดูพร้อม ๆ กันทุกฝ่าย ไม่เช่นนั้นหากให้หน่วยงานใดหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดูก็จะเกิดข้อครหาว่าเลือกปฏิบัติ



