
ปิดท่าเรือสบหลวยกระทบเรือขนส่งสินค้าน้ำโขง
นศ.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่นับร้อยสนใจเข้ารับฟังการบรรยายการค้าชายแดนไทย-เมียนมาหลังการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
วันนี้(1 ก.ย.)ที่ห้อง PSB1101 คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดการบรรยยายหัวข้อการค้าชายแดนไทย-เมียนมาหลังการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมีนางสาวผกายมาศ เวียร์รา ประธานสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา สาขาจังหวัดเชียงรายเป็นผู้บรรยาย และมีนักศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และผู้ที่สนใจเข้าร่วมฟังบรรยายเป็นจำนวนมาก
นางสาวผกายมาศ กล่าวว่า การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายในขณะนี้ยังคงมีเรื่องที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องการค้าชายแดนระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเส้นทางการค้าจาก อ.เชียงแสนไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ในอดีตนั้นการขนส่งสินค้าทางน้ำโขง จากท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนผ่านไปทางท่าเรือสบหลวย เมียนมานั้นสามารถทำได้ แต่ในขณะนี้ทางรัฐบาลเมียนมาได้มีการแจ้งเข้ามาว่าปิดท่าเรือสบหลวย เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา โดยระบุเหตุผลว่า ท่าเรือสบหลวยไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขของการเดินเรือเสรี4ชาติ ในแม่น้ำโขง ซึ่งมี 14 ท่าเรือจากท่าเรือซือเหมาลงมาถึงท่าเรือหลวงพระบาง
ขณะนี้ท่าเรือเมียนมาไม่อนุญาตให้เรือสัญชาติอื่น นอกจากเมียนมาเข้าเทียบท่าได้ ส่งผลกระทบทำให้การค้าซบซงลงไปถนัดตาโดยเฉพาะเรือของประเทศไทยที่จอดทิ้งไว้ที่อ.เชียงแสนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งทำให้ส่งผลกระทบกับผู้ส่งออกสินค้าในประเทศไทยที่ต้องหาเส้นทางการขนส่งสินค้าทางอื่นทำให้ค่าใช้จ่ายในการขนสูงขึ้น ทั้งนี้ทางภาคเอกชนก็ได้มีการเจราจาแก้ไขแต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ดีเท่าที่ควรจำเป็นที่จะต้องบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้เข้าไปเจรจากับรัฐบาลเมียนมาเพื่อที่จะดำเนินการให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาขนส่งสินค้าไปยังปลายทางได้เหมือนปกติ
ไทย-ลาว-เวียตนามร่วมมือด้านการค้าแรงงานและทุนท่องเที่ยว
นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวต้อนรับ เหงียน ดึ๊ก จิ๋น ประธานคณะกรรมการ ประชาชนจังหวัดกวางตรี และคำพูน ตุไพทูน รองเจ้าแขวงสะหวันนะเขต และกล่าวเปิดการประชุมสัมมนาและศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาความร่วมมือ ด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวแรงงานและการประชาสัมพันธ์ ระหว่างจังหวัดมุกดาหาร ราชอาณาจักรไทย แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และจังหวัดกวางตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งจังหวัดมุกดาหารเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ณ ห้องประชุมริเวอร์แกรนด์บอลรูม โรงแรมริเวอร์ซิตี้ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความร่วมมือ ด้านการค้า การลงทุน แรงงาน การท่องเที่ยวและการประชาสัมพันธ์ ร่วมกัน ตลอดถึงหารือปัญหาอุปสรรค์อันส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของทั้ง 3 ฝ่าย
ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ในปัจจุบันเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขัน ทำให้ทุกภูมิภาคให้ความสำคัญต่อความร่วมมือด้านต่างๆ อันจะทำให้ภูมิภาคนั้น มีศักยภาพในการแข่งขัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว จังหวัดมุกดาหารจึงได้จัดสรรงบประมาณ ภายใต้โครงการส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในระดับจังหวัด/ท้องถิ่น และกลุ่มประเทศอาเซียน
โดยหวังว่าจะสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนการเรียนรู้และประสบการณ์ในบริบทต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงความร่วมมือในทุกมิติ ทุกระดับ ระหว่าง จังหวัดมุกดาหาร ราชอาณาจักรไทย แขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและจังหวัดกวางตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามให้เป็นเอกภาพ ร่วมกันสร้างอนุภาคลุ่มน้ำโขงให้มีความเข้มแข็งและมีศักยภาพรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่อไป