ข่าว

หมอแนะเบิร์นไขมันลดอ้วน 

หมอแนะเบิร์นไขมันลดอ้วน 

29 ส.ค. 2559

ลดน้ำหนักที่ดีใช่ว่าอดอาหารแล้วจะผอม ต้องมีวิธีการเบิร์นไปควบคู่ สำคัญอย่ากินยาลดความอ้วน

  หมอแนะเบิร์นไขมันลดอ้วน 

                                                                  อัตราการเผาพลาญ  

 หนึ่งในปัญหากวนใจของหนุ่มสาวทุกยุคทุกสมัยคงจะหนีไม่พ้นเรื่องความอ้วน ยิ่งตอนนี้มีขนม อาหารคาวหวานมากมายออกมาใหม่แทบจะทุกวัน แนะนำกันเต็มโซเชียลมีเดียไปหมด หน้าตาก็น่ากินและดูหอมหวานเกินกว่าจะอดใจไหว แม้จะท่องว่าไม่ๆ แต่หลายครั้งก็ตบะแตก สั่งไม่ยั้งและมานั่งรู้สึกผิดหลังจัดการกับขนมคำสุดท้าย ความอ้วน ศูนย์รวมปัญหาสารพันโรคร้าย

     นายแพทย์สมบูรณ์ รุ่งพรชัย ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ กล่าวว่า การลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยาก แต่หลายคนก็ไม่ประสบความสำเร็จ สาเหตุหลักเป็นเพราะลดน้ำหนักไม่ถูกวิธี เช่น อดอาหารหรือกินน้อยมากๆ หรือหักโหมออกกำลังกายมากเกินไป บางคนอาจเป็นเพราะใจไม่แข็งและไม่มีวินัยในการลดน้ำหนักเพียงพอ บางคนใช้ยาลดความอ้วนเป็นทางออก ซึ่งบอกได้เลยว่าอันตรายเป็นอย่างยิ่งหากไม่ได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยาต่างๆ มีผลข้างเคียงและเป็นอันตรายถึงชีวิตหากใช้ไม่ถูกต้อง 

      "เทคนิคลดน้ำหนักง่ายๆ เอาเข้าให้น้อยกว่าเอาออก หมายถึงหากต้องการลดน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ต้องควบคุมปริมาณแคลอรีที่บริโภคเข้าไปให้น้อยกว่าปริมาณการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ซึ่งอัตราการเผาผลาญรวมในแต่ละวันสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1) อัตราการเผาผลาญพื้นฐานในแต่ละวัน (Basal Metabolic Rate: BMR) คือปริมาณพลังงานที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้เพื่อให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติเพื่อดำรงชีวิต เช่น หัวใจ สมอง กล้ามเนื้อ ตับ ไต เป็นต้น 2) อัตราการเผาผลาญพลังงานจากกิจกรรมในแต่ละวัน ซึ่งหากออกกำลังกายมากๆ หรือเคลื่อนไหวร่างกายสม่ำเสมอก็จะมีอัตราการเผาผลาญพลังงานส่วนนี้มากขึ้น และ 3) อัตราการเผาผลาญจากการย่อยอาหารในแต่ละวัน ซึ่งจากปัจจัยทั้งสามนี้ สิ่งที่มีผลมากต่อการเผาผลาญมากที่สุดคืออัตราการเผาผลาญพื้นฐาน คิดเป็น 60-65% ของการเผาผลาญรวม โดยการเผาผลาญจากกิจกรรมและจากการย่อยอาหารรวมกันคิดเป็นเพียง 35-40%" ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ 

หมอแนะเบิร์นไขมันลดอ้วน 

                                                              ดร.จีน่า ฮอง

   ในขณะที่ ดร.จีน่า ฮอง นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสุขภาพนิวทริไลท์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวว่า สารสกัดจากชาเขียวที่มีเทคโนโลยีไฟโตโซม ผู้ช่วยคนสำคัญของการเบิร์น ซึ่งการวิจัยทางคลินิกเรื่องการใช้สารสกัดจากชาเขียวที่มีเทคโนโลยีไฟโตโซม (Phytosome) ร่วมกับการกินอาหารแคลอรีต่ำเพื่อรักษาโรคอ้วน โดยมีกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม เพื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่กินอาหารแคลอรีต่ำอย่างเดียว และกลุ่มที่ใช้สารสกัดจากชาเขียวที่มีเทคโนโลยีไฟโตโซมร่วมกับการกินอาหารแคลอรีต่ำด้วย โดยใช้ระยะเวลาเท่ากันคือ 90 วัน ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มที่ใช้สารสกัดจากชาเขียวที่มีเทคโนโลยีไฟโตโซมร่วมกับการกินอาหารแคลอรีต่ำ มีส่วนช่วยให้น้ำหนักลงมากกว่ากลุ่มที่กินอาหารแคลอรีต่ำอย่างเดียว 

 

หมอแนะเบิร์นไขมันลดอ้วน 

                                                              กลุ่มสารสกัดจากชาเขียว

    ทุกคนคงจะเห็นแล้วว่าการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีไม่ใช่เรื่องยากเลย และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วสำหรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารเพื่อนำไปสู่รูปร่างที่พึงประสงค์ แค่ระลึกไว้เสมอว่า ต้องให้แคลอรีที่บริโภคเข้าไปนั้นน้อยกว่าแคลอรีที่ร่างกายเผาผลาญ ซึ่งอัตราการการเผาผลาญนั้นสามารถเพิ่มขึ้นได้โดยสารสกัดจากชาเขียวที่มีเทคโนโลยีไฟโตโซม และที่สำคัญ การลดน้ำหนักต้องทำอย่างถูกวิธี ค่อยเป็นค่อยไป และมีวินัย จึงจะเป็นการลดน้ำหนักที่ปลอดภัย ยั่งยืน และไม่โยโย่