ข่าว

สินน้ำใจภาคบังคับ

สินน้ำใจภาคบังคับ

23 ส.ค. 2559

คอลัมน์ ขมน้ำตาล หวานบอระเพ็ด : โดย...พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ

 

         สินน้ำใจคือสิ่งที่มอบให้กันด้วยความเสน่หาหรือความชอบส่วนตัว สินน้ำใจที่รู้จักกันดีคือเงินพิเศษหรือที่เรียกทับศัพท์กันว่า “เงินทิป” นั่นเอง เมื่อมีการจ้างวานใครมาทำอะไรให้หรือไปรับบริการตามร้านค้า นอกจากจะจ่ายเงินเป็นค่าสินค้าและบริการแล้ว ยังมีการให้เงินพิเศษเป็นค่าสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นการเอาเศษเงินทอนให้กันไป

         ปัจจุบันมีการตั้งคำถามขึ้นมาให้เถียงกันว่า การให้ทิปนี้จำเป็นถึงขนาด “ต้องให้” หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราได้รับบริการที่ไม่ถูกอกถูกใจ ไม่ได้มีความพิเศษแต่อย่างใด หรือในกรณีที่มีการเรียกเก็บค่าบริการหรือเซอร์วิสชาร์จอยู่แล้ว และค่าทิปควรมีการกำหนดหรือไม่หมายถึงกำหนดทั้งจำนวนตรงๆ และการกำหนดขั้นต่ำเช่นที่นิยมกันในบางประเทศ ซึ่งก็ยังมีความเห็นแย้งกันอยู่เสมอๆ เกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้

         ค่าทิปที่ให้กันเป็นกรณีพิเศษ และมีการกำหนดเอาไว้อย่างไม่เป็นทางการของตัวเลขขั้นต่ำ ที่เห็นได้ชัดเจนและอยู่ใกล้ตัวเรามีอยู่สองอาชีพ คือ กอล์ฟ และ การนำเที่ยว โดยในปัจจุบันนี้การเล่นกอล์ฟนอกจากจะต้องเสียเงินค่าสนามที่เรียกกันว่าค่ากรีนฟีแล้ว ยังต้องเสียค่ารถกอล์ฟ (ในกรณีที่ต้องใช้) และยังต้องมีเงินค่าแคดดี้ฟีอีกด้วย โดยหน้าที่หลักของแคดดี้ก็คือเป็นผู้นำพาถุงกอล์ฟ และคอยหยิบเอาเครื่องมือที่เรียกกันว่าเหล็กหรือหัวไม้ ให้แก่คนเล่นกอล์ฟ ส่วนหน้าที่เสริมซึ่งกลายเป็นเรื่องสำคัญของคนเล่นกอล์ฟในสมัยนี้คือ ต้องคอยบอกถึงระยะความยาวไกลจากจุดที่ต้องตีไปยังจุดหมาย เพื่อให้คนเล่นกอล์ฟสามารถกำหนดกำลังในการตีหรือเลือกอุปกรณ์ได้ถูกต้อง และเป็นผู้ให้คำเสนอแนะหรือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความราบเรียบ หรือเนินสูงต่ำของบริเวณใกล้หลุมจุดหมายที่เรียกกันว่ากรีน

         แต่ทั้งหลายทั้งปวงนั้นหากแคดดี้จะไม่สามารถช่วยได้ ก็ไม่ใช่ความผิดพลาดของแคดดี้ เพียงแต่จะเป็นแคดดี้ที่ไม่มีประสบการณ์ทำให้คนเล่นกอล์ฟไม่ค่อยชอบเท่านั้นเอง ในขณะที่แคดดี้เก่งๆสามารถบอกระยะทางและสภาพบนกรีนได้แม่นยำ รวมทั้งสามารถค้นหาลูกที่คนเล่นกอล์ฟตีหลุดเข้าไปในป่ารกชัฏได้ถูกต้อง ก็จะเป็นแคดดี้ที่คนเล่นกอล์ฟชอบที่จะเรียกใช้และให้เงินทิปพิเศษมากกว่าปกติ

         แต่ก็ยังมีแคดดี้มือใหม่จำนวนมากที่ทำเช่นนั้นไม่ด้ แคดดี้อย่างนี้คนเล่นกอล์ฟแม้จะไม่ชอบใจในงานบริการเอาเสียเลย แต่ก็ยังต้องจ่ายเงินพิเศษหรือเงินทิปให้ ซึ่งปัจจุบันนี้หากให้น้อยกว่า 300 บาทต่อการเล่นกอล์ฟหนึ่งครั้งรับรองได้ว่าโดนแคดดี้นินทาทันที ทั้งที่คนจ่ายเองก็ไม่เต็มใจที่จะจ่ายเนื่องจากไม่พึงพอใจในงานบริการซึ่งมีการจ่ายค่าจ้างให้ตามปกติอยู่แล้ว

         เช่นกันกับกรณีของการไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะระบุเอาไว้เลยว่าต้องมีเงินทิปให้มัคคุเทศก์และคนขับรถคนละเท่านั้นเท่านี้ ทั้งที่นักท่องเที่ยวบางคนได้รับบริการที่ไม่น่าจะพึงพอใจ ตัวอย่างเช่นคนสูงอายุที่ไปใช้บริการท่องเที่ยวก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือ ในขณะที่ผู้ร่วมเดินทางบางท่านได้รับบริการพิเศษจากมัคคุเทศก์ แต่ทุกคนต้องมาจ่ายเงินสินน้ำใจในจำนวนที่เท่าๆ กัน ทำไมผู้ให้บริการทั้งสนามกอล์ฟและนำเที่ยวจึงไม่กำหนดอัตราค่าบริการเงินสินน้ำใจบวกลงไปเสียทีเดียว โดยที่ผู้ใช้บริการไม่ต้องมาควักด้วยความพิอักพิอ่วนกันภายหลังก็ไม่ทราบ ทั้งที่สนามกอล์ฟบางแห่งก็เริ่มใช้วิธีนี้กันบ้างแล้ว ว่าแต่เมื่อคุณอ่านจนจบแล้วคุณคิดอยากจะจ่ายเงินพิเศษเป็นค่าทิปให้คนเขียนบ้างไหมครับ