ข่าว

อากาศเปลี่ยนกระทันทัน ระวัง!โรครุมวัว-ควาย!

อากาศเปลี่ยนกระทันทัน ระวัง!โรครุมวัว-ควาย!

17 ส.ค. 2559

โดย - โต๊ะข่าวเกษตร

        ก.เกษตรฯเตือนผู้เลี้ยงโคและกระบือ อากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทำให้สัตว์อ่อนแอ ให้จัดเตรียมโรงเรือน วัสดุปูรองและอาหารสัตว์ให้เพียงพอ      

         นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เข้าสู่ฤดูฝนทำให้สภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลให้สัตว์เกิดความเครียด ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันโรคลดต่ำลง มีความเสี่ยงต่อการ ติดเชื้อโรคและเกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อย และโรคคอบวม หรือโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมีย

 

อากาศเปลี่ยนกระทันทัน ระวัง!โรครุมวัว-ควาย!

 

         นายสัตวแพทย์อยุทธ์ หรินทรานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคปากและเท้าเปื่อย เป็นโรคติดต่อที่สำคัญในโค กระบือ แพะ แกะ และสุกร มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส ซึ่งสามารถติดต่อและแพร่กระจายได้โดยการกินหรือสัมผัสกับสัตว์ป่วยโดยตรง หรือเชื้อที่ปนเปื้อนจากคน ยานพาหนะ เป็นต้น 

           ทั้งนี้ เชื้อไวรัสจะถูกขับออกมาจากสัตว์ป่วยทางน้ำมูก น้ำลาย น้ำนม มูล ลมหายใจและบาดแผล สัตว์ที่ป่วยจะซึม มีไข้ เบื่ออาหาร มีเม็ดตุ่มพองเกิดขึ้นที่ริมฝีปาก ช่องปากและไรกีบ ทำให้น้ำลายไหล กินอาหารไม่ได้ เดินกะเผลก เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสจึงไม่มียารักษาแต่จะใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกับยาม่วง ลดติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเท่านั้น 

           ส่วนโรคคอบวมหรือโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมีย จะทำให้สัตว์มีอาการคอหรือหน้าบวมแข็ง หายใจเสียงดังหรือหอบ ยืดคอไปข้างหน้า ส่วนใหญ่มักมีอาการแบบเฉียบพลัน คือ ไข้สูง น้ำลายฟูมปาก หยุดกินอาหาร และตายภายในไม่กี่ชั่วโมง

           โดยปกติเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคคอบวม สามารถอยู่ในระบบทางเดินหายใจสัตว์ปกติได้โดยไม่แสดงอาการป่วย แต่เมื่อสัตว์อยู่ในภาวะเครียดจากการเคลื่อนย้าย อากาศเปลี่ยนแปลง การอดอาหาร หรืใช้แรงงานมากเกินไป ทำให้อ่อนแอ ภูมิคุ้มกันลดต่ำลง สัตว์จะแสดงอาการป่วยและขับเชื้อออกสู่สิ่งแวดล้อมปนเปื้อนอาหารและน้ำ

            ทั้งนี้ การป้องกันโรคที่ดีที่สุด คือ ให้ความสำคัญกับการดูแลสัตว์เลี้ยงของตนให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง โดยต้องดูแลในเรื่องการจัดการโรงเรือนหรือคอกสัตว์ มีหลังคาป้องกันฝน ลม ได้เป็นอย่างดี มีวัสดุปูรองคอกเลี้ยงสัตว์ จัดเตรียมน้ำสะอาด อาหารสัตว์หรือพืชอาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์ต่างๆ

           อาทิ วิตามิน ให้เพียงพอ นอกจากนี้ควรทำความสะอาดโรงเรือนหรือคอกเลี้ยงสัตว์ และพ่นทำลายเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ  อย่างไรก็ตาม โรคระบาดดังกล่าวสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนให้กับสัตว์ที่มีอายุตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป โดยฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยให้กับโค กระบือ แพะ แกะ ปีละ 2 ครั้ง

          ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอบอมหรือโรคเฮโมรายิกเซพติซีเมียให้กับกระบือและโค ปีละ 1 ครั้ง  กรณีที่คอกเลี้ยงสัตว์อยู่ในที่ลุ่มเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบต่อภัยพิบัติที่เกิดจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ขอให้เกษตรกรย้ายคอกสัตว์เลี้ยงไปอยู่ที่ดอนหรือที่น้ำท่วมไม่ถึง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว

          ท้ายสุดนี้ ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์สังเกตอาการสัตว์ที่เลี้ยง โดยเฉพาะโค กระบือ หากพบสัตว์แสดงอาการป่วยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เพื่อดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเรื่องโรคติดต่อได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือโทรศัพท์ 0-2653-4444 ต่อ 4131-3