ครูใหญ่ร.ร.เอกชนดังกระหน่ำยิงน้องสาวเจ็บสาหัส | คมชัดลึก

              เมื่อวานนี้(17ส.ค.) ร.ต.อ.บุญเลิศ อู่ผลเจริญ รอง สว. (สอบสวน) สน.อุดมสุข รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บ ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง  ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง แขวงและเขตประเวศ กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ปรีชา เพ็งเภา ผกก.สน.อุดมสุข พ.ต.ท.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผกก.สส.สน.อุดมสุข พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม สว.สส.สน.อุดมสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.อุดมสุข เจ้าหน้าที่ทหาร ม.1 และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)
               ที่เกิดเหตุบริเวณห้องธุรการของโรงเรียน ซึ่งอยู่ใกล้ห้องเรียนของนักเรียนชั้นอนุบาล พบเพียงรอยเลือดหยดเป็นทาง โดยเหตุดังกล่าวส่งผลให้บรรดาครูและนักเรียนอยู่ในอาการหวาดผวา ตื่นตกใจกลัว ก่อนที่ทางโรงเรียนจะยุติการเรียนการสอน และประสานให้ผู้ปกครองมารับเด็กนักเรียนกลับบ้าน พร้อมแจ้งว่าจะเปิดการเรียนการสอนเป็นปกติในวันที่ 18 ส.ค. 
               ส่วนผู้ที่ก่อเหตุครั้งนี้ จากการตรวจสอบ คือ นายพิสิฐพล ไกรพิพัฒน์ อายุ 48 ปี ตำแหน่งครูใหญ่ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิง นางปิยรัชด์ สุรพงศ์ประภา อายุ 45 ปี ตำแหน่ง ผู้จัดการภายในโรงเรียน และมีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องกับผู้ก่อเหตุ โดยนายพิสิฐพลใช้อาวุธปืนยิงใส่จำนวน 6 นัด ถูกนางปิยรัชด์ จำนวน 3 นัด ได้รับบาดเจ็บที่ คอ ต้นขาซ้าย และหัวไหล่ขวา อาการสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.สิรินธรไปก่อนหน้า และยังอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์ที่รักษาอย่างใกล้ชิด
               จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายพิสิฐพล เคยมีปัญหาการเกี่ยวกับการบริหารงานภายในของโรงเรียน และเคยมีปากเสียงกับบุคลากรในโรงเรียนมาก่อน กระทั่งก่อนเกิดเหตุนายพิสิฐพลเดินทางมายังห้องธุรการ และมีอาการคล้ายมึนเมาสุรา ก่อนจะมีปากเสียงกับบุคลากรภายในห้องธุรการอีกครั้ง จากนั้น นางปิยรัชด์ พยายามจะเข้ามาพูดคุยเพื่อไกล่เกลี่ยห้ามปราม แต่ขณะนั้น นายพิสิฐพล อยู่ในอารมณ์โมโห จึงก่อเหตุใช้อาวุธปืนที่ติดตัวมา กระหน่ำยิงใส่จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ภายหลังก่อเหตุนายพิสิฐพลได้ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ มิราจ สีแดง ทะเบียน 2 กฌ 8704 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป
               เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวนายพิสิฐพลมาดำเนินคดี พร้อมทั้งสอบสวนพยานเพิ่มเติม 

               ขณะที่ นายอดินันท์ ปากบารา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบยังโรงเรียนวังเด็กพัฒนาและพัฒน์บริหารธุรกิจ (พัฒน์แบค) ที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามสถานการณ์ ประสานงานและแก้ไขปัญหา รวมถึงตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะจะเร่งให้การดูแลเรื่องของสภาพจิตใจของครูและนักเรียน ที่อาจยังอยู่ในช่วงวิตกกังวล จากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งขอฝากผู้ปกครองช่วยกันดูแลบุตรหลานด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ก่อเหตุนั้นก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย